ทำเนียบฯ 12 ธ.ค.- รองโฆษกรัฐบาลเผยข่าวดี กระทรวงเกษตรฯ สยบโรคระบาดในม้า วัว ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวในอาเซียน คงสถานะปลอดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เตรียมคลอดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความสำเร็จในการควบคุมโรคระบาดในสัตว์ที่เกิดขึ้นใหม่ในประเทศไทย ซึ่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรี ว่า การระบาดของโรคต่างๆ เริ่มคลี่คลายมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สามารถควบคุมการเกิดโรคและป้องกันได้อย่างสำเร็จ กรณี โรคกาฬโรคแอฟริกาม้า (African Horse Sickness: AHS) ซึ่งพบรายงานครั้งแรกเมื่อ มีนาคม 2563 ที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงม้าและค้าม้าในประเทศอย่างมาก ด้วยมาตรการการดูแลที่เข้มข้นของกระทรวงฯ และความร่วมมือกับเครือข่ายทุกภาคส่วน ผนวกกับแผนปฏิบัติการกำจัดกาฬโรคแอฟริกาในม้า เพื่อคืนสถานภาพปลอดโรคจากองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ทำให้ประเทศไทยไม่พบรายงานโรค AHS ตั้งแต่กันยายน 63 มั่นใจว่าขอคืนสถานภาพปลอดโรคนี้ได้ ภายในปี 2566 ได้แน่นอน สำหรับการควบคุมโรคลัมปี สกิน (Lumpy skin) ในโค-กระบือ พบรายงานครั้งแรกในปี 2564 ด้วยมาตรการควบคุมโรคให้สงบอย่างรวดเร็ว การควบคุมการเคลื่อนย้าย การกำจัดแมลงและสัตว์พาหะนำโรค การกระจายและเร่งฉีดวัคซีนให้กับโค-กระบือ ทั่วประเทศ ทำให้ปัจจุบันสามารถจำกัดพื้นที่การแพร่ระบาดของโรคได้ และลดความเสียหายจากการเกิดโรค อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯยังคงมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพราะยังคงพบการระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้ง กรมปศุสัตว์ได้ทำการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโรคลัมปี สกิน ซึ่งขณะนี้ได้วัคซีนต้นแบบแล้ว และอยู่ระหว่างการนำไปฉีดเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการสร้างภูมิคุ้มกันในโค
ส่วนโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever: ASF) ซึ่งเป็นโรคที่พบการระบาดทั่วโลก สร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรมการผลิตสุกรอย่างมาก แต่ยังไม่พบการระบาดในประเทศไทย นายเฉลิมชัย ได้กล่าวว่า มาตรการการป้องกันอย่างเคร่งครัดและความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มหาวิทยาลัย สมาคม และเกษตรกรผู้เลี้ยง ทำให้ไทยยังคงสถานะปลอดโรค ASF เป็นประเทศหนึ่งเดียวในอาเซียน อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่พบการเกิดโรคในไทย แต่ด้วยยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้ ประเทศไทยก็อาจมีความเสี่ยงได้ ทางกรมปศุสัตว์จึงได้เร่งดำเนินการพัฒนาวัคซีน ASF ในสุกรต้นแบบ เพื่อเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรประเทศเพื่อนบ้านในอนาคตต่อไป
“นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์โรคระบาดในสัตว์ด้วยความห่วงใย เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ ทั้งยังสามารถแพร่ระบาดข้ามประเทศได้ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ มีการรายงานการติดตาม การเฝ้าระวัง การป้องกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายกฯ ได้ชื่นชมและพอใจการทำงานของกระทรวงฯ รวมถึงขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และความสามารถด้านปศุสัตว์ของไทย ทำให้ควบคุมโรคระบาดในสัตว์ได้สำเร็จ ทั้งโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (AHS) และโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ (Lumpy skin) และเป็นหนึ่งเดียวในอาเซียนที่สามารถป้องกันการเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) คงสถานะปลอดโรคได้ ” นางสาวรัชดา กล่าว .-สำนักข่าวไทย