ทำเนียบรัฐบาล 10 พ.ย.-โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ เตรียมร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 28 ผ่านระบบประชุมทางไกล ระหว่างวันที่ 11-12 พ.ย.นี้ พร้อมรับมอบเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกปีหน้า
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก (APEC Economic Leaders Week: AELW) ผ่านระบบการประชุมทางไกล ระหว่างวันที่ 11 – 12 พฤศจิกายน 2564 โดยมีกำหนดการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19.00 น. นายกรัฐมนตรีร่วมการหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก (ABAC Leaders Dialogue)
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาในการประชุม APEC CEO Summit จากนั้น เวลา 18.00 น. นายกรัฐมนตรีจะร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 28 โดยในตอนท้ายของวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 นี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมพิธีรับมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปก ซึ่งนางสาวจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จะส่งมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปกให้นายกรัฐมนตรีไทย
นายธนกร กล่าวว่า ปี 2564 นิวซีแลนด์เป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกในหัวข้อหลัก (Theme) ร่วมกัน ทำงาน เติบโต ไปด้วยกัน (Join, Work, Grow. Together.) และได้นำเสนอประเด็นสำคัญ 3 ประเด็น ได้แก่ 1. นโยบายเศรษฐกิจ และการค้าที่ส่งเสริมการฟื้นฟู (Economic and Trade Policies that Strengthen Recovery) 2. การเพิ่มการมีส่วนร่วมและความยั่งยืนเพื่อการฟื้นฟู(Increasing Inclusion and Sustainability for Recovery) 3. การมุ่งสู่นวัตกรรม และการฟื้นฟูที่ใช้ดิจิทัล (Pursuing Innovation and a Digitally-Enabled Recovery)
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความพร้อมที่จะนำเสนอบทบาทของประเทศไทย ผลักดันในประเด็นที่จะเป็นประโยชน์ร่วมกันในหลายประเด็น ได้แก่ 1. ความเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างกันและการท่องเที่ยว 2. การกระตุ้นการค้าและการลงทุน 3. การพลิกโฉมเศรษฐกิจ โดยนำเสนอโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy Model)ในโอกาสนี้ ขอเชิญชวนชาวไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพเอเปก ปี 2565 พร้อมแสดงจุดยืน และบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ มั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถเป็นเจ้าภาพที่ส่งผลอย่างรูปธรรมให้กรอบการทำงานเอเปกในปี 2565 ได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย