กรุงเทพฯ 30 ต.ค.-กองทัพอากาศ พร้อมรับทหารใหม่ผลัด 2/64 เข้มมาตรการป้องกันโควิด ตั้งแต่การตรวจคัดกรองแรกรับ ไปจนถึงการปรับรูปแบบการฝึก การดูแลชีวิตความเป็นอยู่ประจำวัน
พลอากาศตรี ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทัพอากาศมีความพร้อมในการรับทหารกองประจำการ รุ่นปี 2564 ผลัดที่ 2 เข้าประจำการพร้อมกันในหน่วยทหารทั่วประเทศ ในวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ ซึ่งกองทัพอากาศให้ความสำคัญกับแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจคัดกรองแรกรับ ไปจนถึงการปรับรูปแบบการฝึก การดูแลชีวิตความเป็นอยู่ประจำวัน ตลอดจนการรักษาหากพบผู้ติดเชื้อในหน่วย
ทั้งนี้ พลอากาศเอก นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ มีความห่วงใยทหารกองประจำการที่เปรียบเหมือนน้องเล็กในหน่วย ได้และตระหนักถึงความสำคัญของการควบคุมโรคในหน่วย โดยมาตรการในการรับทหารใหม่นั้น ทหารใหม่ทุกคนจะเข้าสู่กระบวนการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ก่อนเข้ารับการฝึก และจะมีการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 จะตรวจในวันแรกรับ ครั้งที่ 2 ตรวจในวันที่ 7 ของการกักตัว และครั้งที่ 3 ตรวจในวันที่ 14 ของการกักตัว นอกจากนี้จะมีการดำเนินมาตรการ Bubble & Seal ทั้งทหารใหม่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฝึก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและลดการนำเชื้อเข้าสู่หน่วยฝึก และเน้นย้ำกำลังพลให้เคร่งครัดในมาตรการป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) เช่น การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล การสวมหน้ากากอนามัย 100% การลดความแออัดภายในหน่วยฝึกในทุกกิจกรรมตลอดห้วงการฝึก การทำความสะอาดพื้นผิวที่หยิบจับและสัมผัสบ่อย การแยกรับประทานอาหารโดยใช้ภาชนะส่วนบุคคล การคัดกรองอาการและอุณหภูมิร่างกาย เป็นต้น
ด้านการเตรียมหน่วยฝึกเพื่อลดโอกาสสัมผัสโรคติดต่อ กองทัพอากาศได้จัดสิ่งแวดล้อมของสถานที่ต่าง ๆ ภายในหน่วยฝึก ได้แก่ โรงนอน พื้นที่กักกันโรคของหน่วย (Unit Quarantine Area) โรงเลี้ยง ห้องอบรม กองบังคับการหน่วยฝึก ห้องประชุม ห้องพยาบาล ห้องน้ำ และห้องส้วม ให้แยกกันอย่างชัดเจนระหว่างหน่วยฝึกย่อย ไม่ใช้ปะปนกันระหว่างทหารผลัดใหม่ ทหารผลัดเก่า และครูฝึก การจัดให้มีการระบายอากาศให้หมุนเวียนถ่ายเทดี การติดตั้งจุดล้างมือและจุดแอลกอฮอล์อย่างทั่วถึงและเพียงพอ และสนับสนุนให้ทหารกองประจำการทุกคนมีของใช้ส่วนตัว ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม หากพบผู้มีอาการป่วยหรือสงสัยว่าป่วย จะได้รับการแยกตัว หยุดฝึก หยุดปฏิบัติหน้าที่ และเข้าสู่กระบวนการตรวจวินิจฉัยทันที โดยกองทัพอากาศได้เตรียมความพร้อมของสถานพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลหลักในสังกัดกองทัพอากาศ โรงพยาบาลสนาม และสถานกักกันโรค รวมถึงการประสานกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย