ทำเนียบรัฐบาล 28 ต.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมกพต. เร่งพัฒนาทักษะภาษาไทยเด็กเล็กให้ดำเนินชีวิตในสังคมหลากหลายวัฒนธรรม ย้ำพัฒนาศก.ทุกมิติ แก้ยากจน ยกระดับคุณภาพชีวิต ลดเงื่อนไขรุนแรง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) เพื่อยกระดับการพัฒนาพื้นที่จชต.ทุกมิติ โดยที่ประชุมรับทราบการถ่ายโอนภารกิจจัดจ้างวิทยากรผู้สอนภาษาไทยจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ให้กับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บก.ตชด.) ตั้งแต่ปี 2566 หลังจากที่พบว่าเด็กในวัยเรียนจำนวนมากยังไม่ได้เรียนหนังสือและมีปัญหาอ่านเขียนไม่ได้ และเห็นชอบแนวทางมอบอำนาจให้เลขาธิการศอ.บต.
ที่ประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามนโยบาย ได้แก่ การช่วยเหลือและพัฒนาแรงงานไทยในพื้นที่ จชต.ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศภายใต้สถานการณ์โควิด-19 แล้วกว่า 10,000 คน และจะเร่งพัฒนาอีก 7,000 คน ให้แล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2565 แยก 3 กลุ่ม ประกอบด้วย ผู้ที่ประสงค์จะประกอบอาชีพในภูมิลำเนาเดิม ผู้ที่พร้อมไปทำงานในโรงงานอุตสากรรมนอกพื้นที่ และผู้ที่ประสงค์เข้าทำงานเกษตรสวนปาล์มในมาเลเซีย
สำหรับการแก้ปัญหาการระบาดของโรคใบไม้ร่วงชนิดใหม่ในยางพารารวม 308,351 ไร่ การยางแห่งประเทศไทยได้สนับสนุนงบประมาณ 331 ล้านบาท เร่งศึกษาแก้ปัญหาร่วมกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่และพัฒนาอาชีพชาวสวนยางที่ได้รับผลกระทบในการปลูกพืชผสมผสานในพื้นที่นำร่องและพื้นที่ขยายผลอีก 22,000 ไร่ควบคู่กันไป
ที่ประชุมให้ความเห็นชอบกรอบการบูรณาการเพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผ่าน “โครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ภายใต้ระบบ “ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน” มุ่งเน้นแก้ปัญหาความยากจน 5 มิติ อนุมัติหลักการโครงการขยายพื้นที่ปลูกไม้และไม้ผลเศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จชต. เพื่อยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจครัวเรือนควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่
ที่ประชุมอนุมัติหลักการและกรอบวงเงิน โครงการยกระดับการพัฒนาพื้นที่เมืองต้นแบบเบตง จังหวัดยะลา “Amazean Jungle Trial” ส่งเสริมภาพลักษณ์และยกระดับการท่องเที่ยวเชิงกีฬาไปสู่ระดับนานาชาติ เห็นชอบหลักการและกรอบงบประมาณโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพา ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเดินเรือและลดปัญหาผลกระทบความเสียหายจากน้ำท่วมต่อเนื่อง อนุมัติกรอบวงเงินสนับสนุน โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบระยะเร่งด่วน เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนในพื้นที่ 3 จชต.เป็นกรณีเร่งด่วน และเห็นชอบการพัฒนาศักยภาพด่านศุลกากรชายแดนไทย – มาเลเซีย ( 9 ด่าน ) เพื่อยกระดับการค้าชายแดนและความร่วมมือในมิติต่าง ๆ
พล.อ.ประวิตร กล่าวขอบคุณศอ.บต.และทุกส่วนราชการที่ร่วมขับเคลื่อนพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่จชต. คืบหน้าอย่างมากต่อเนื่องมา ทั้งนี้ การส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทยเป็นนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญ โดยขอให้ศอ.บต.ขยายผลเร่งด่วนในกลุ่มเป้าหมายเด็กเล็กและโรงเรียนตาดีกา เพื่อโอกาสในการพัฒนาทักษะภาษาไทยและการนำไปใช้ดำเนินชีวิตในสังคมที่หลากหลายวัฒนธรรมร่วมกันได้อย่างเหมาะสม พร้อมกำชับให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศและศอ.บต. ใช้โอกาสนี้เข้าไปจัดระบบ ปรับปรุงระเบียบด้านแรงงานและอำนวยความสะดวกการทำงานในมาเลเซีย รองรับการเปิดประเทศ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ให้ศอ.บต.เป็นหลักประสานขับเคลื่อนยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ เพื่อลดเงื่อนไขความรุนแรง โดยให้เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรสวนยางและประมง ซึ่งเป็นอาชีพหลักสร้างรายได้ของประชาชนในพื้นที่ โดยขอให้ทุกฝ่ายทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น และหากเกิดต้องลดความเสียหายให้เร็วที่สุด ส่วนการแก้ไขปัญหาความยากจนซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องใช้ข้อมูลสถิติในพื้นที่ ให้ผู้ว่าราชการทั้ง 5 จังหวัดเป็นเจ้าภาพ ใช้ข้อมูลและลงแก้ปัญหาระดับพื้นที่ถึงอำเภอและตำบล ให้ปรับแผนการทำงานร่วมกันขยายพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจ ให้สอดคล้องกับภูมิศาสตร์และภูมิสังคมของพื้นที่ ซึ่งมีผลต่อการลดปัญหาทรัพยากรเสื่อมโทรมในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย