นายกฯ ร่วมเวทีประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ

ทำเนียบ 26 ต.ค.-นายกฯ ร่วมเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ เน้นการก้าวสู่ “Next Normal” อย่างยั่งยืน ยึด BCG เพื่อพลิกโฉมประเทศ ด้าน โจ ไบเดน ยืนยัน ให้ความช่วยเหลืออาเซียนอย่างต่อเนื่อง


เมื่อเวลา 20.00 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกาฯ ครั้งที่ 9 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน และประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โจ ไบเดน เข้าร่วม

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เข้าร่วมการประชุมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยประธานาธิบดีได้กล่าวถึงความสำคัญระหว่างสหรัฐฯ กับอาเซียนที่มีความสำคัญมากขึ้น สหรัฐฯ สนับสนุนแนวคิด AOIP ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เห็นว่า การก้าวผ่านศตวรรษที่ 21 ต้องร่วมมือกันเพื่อสู้กับโควิด – 19 รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และการสร้างความเข้มแข็งด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ร่วมกัน และการผลิตเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มุ่งหวังที่จะได้ร่วมกับอาเซียนเพื่อประโยชน์ร่วมกันต่อไป ในตอนท้าย ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวว่าสหรัฐฯ ให้คำมั่นกับความสัมพันธ์ร่วมกับอาเซียน ยืนยันสนับสนุนการเป็นแกนกลางของอาเซียน ตลอดจนยืนยันที่จะมีความช่วยเหลือให้กับอาเซียนอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อสนับสนุนอาเซียนให้ Build Back Better


นายกรัฐมนตรี ยินดีที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า สหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นผ่านเป้าหมายร่วมกันคือ การสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค อาเซียนกับสหรัฐฯ มีประวัติศาสตร์ความร่วมมือระหว่างกันมาถึง 45 ปี ผ่านความท้าทายร่วมกันมาหลายประการ ทั้งนี้ ขอบคุณที่สหรัฐมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวทางความร่วมมือของอาเซียน-สหรัฐฯ ใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่

  1. ความร่วมมือในการกระจายวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณสหรัฐฯ ที่สนับสนุนวัคซีนจำนวนมากให้แก่ประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน รวมถึงไทย รวมทั้งยินดีที่สหรัฐฯ ตั้งเป้าหมายจะขยายฐานการผลิตวัคซีนไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งไทยพร้อมให้ความร่วมมือทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา และการกระจายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. การให้ความสำคัญกับการเติบโตสีเขียว เพื่อก้าวไปสู่ “Next Normal” อย่างยั่งยืน หวังว่าสหรัฐฯ จะขยายความร่วมมือกับอาเซียนในด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนและการสร้างงานในอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านแผนการเงินระหว่างประเทศด้านสภาพภูมิอากาศของสหรัฐฯ (U.S. International Climate Finance Plan) ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้อาเซียนบรรลุเป้าหมาย อาทิ การลดความเข้มข้นในการใช้พลังงานลงร้อยละ 32 และการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นร้อยละ 23 ภายในปี ค.ศ. 2025 ทั้งนี้ ในส่วนของไทย รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะ “พลิกโฉมประเทศ” ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่เน้นความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับการรักษาสิ่งแวดล้อมในการฟื้นฟูจากโควิด-19 อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน โดยไทยจะผลักดันประเด็นเศรษฐกิจ BCG ในช่วงการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคปี ค.ศ. 2022 ซึ่งหวังว่าจะได้ต้อนรับประธานาธิบดีไบเดนที่ประเทศไทย
  3. การพัฒนาด้านดิจิทัล นายกรัฐมนตรียินดีที่ในวันนี้ได้ร่วมรับรองแถลงการณ์ผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ ว่าด้วยการพัฒนาด้านดิจิทัล ซึ่งจะต่อยอดไปสู่ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยให้ GDP อาเซียนขยายตัวได้ถึงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี ค.ศ. 2025 โดยไทยมุ่งผลักดันโครงการ “ดิจิทัลพาร์คไทยแลนด์” ภายใต้ EEC เพื่อเป็นศูนย์กลางความร่วมมือของเศรษฐกิจที่สร้างสรรค์และการสร้างดิจิทัลสตาร์ทอัพในภูมิภาค

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการทำงานร่วมกันของมหาอำนาจเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สงบ สันติ และเอื้ออำนวยต่อการฟื้นตัวหลังโควิด-19 โดยหวังว่า พัฒนาการต่าง ๆ รวมถึงการจัดทำยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ฉบับใหม่ของสหรัฐฯ และหุ้นส่วนไตรภาคีด้านความมั่นคงในเอเชียแปซิฟิก (AUKUS) จะเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ สนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียน และหลักการภายใต้มุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก (AOIP)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ในการประชุมอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ที่ผู้นำสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมอาเซียนด้วยตัวเอง โดยผู้นำสหรัฐคนก่อนหน้า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน คือประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าร่วมการหารือกับอาเซียนด้วยตัวเองเพียงครั้งเดียว คือเมื่อครั้งที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2560 หลังจากนั้นส่งผู้แทนเข้าร่วม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]

นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู”

สภาหอการค้าฯ 18 ก.ย.-นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู” ต้องผลักดันเต็มที่ พร้อมแก้ไขปัญหาภาคเอกชนสู่นโยบายรัฐบาล ยันทำทุกทางให้ไทยเป็นคู่ค้าที่ได้เปรียบ ไม่ปิดกั้นนโยบายคนอื่น ขอให้วินวินทุกฝ่าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือกับสภาหอการค้าไทยว่า ตนและทีมงานได้มาพบกับทางคณะกรรมการสภาหอการค้าไทย เหมือนกับวันที่เราไปเยี่ยมที่สภาอุตสาหกรรม เราพยายามที่จะไปพบกับภาคเอกชนก่อนที่จะเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลได้สนับสนุนหรือแก้ไข จะรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อเวลาเข้าไปทำงานจะได้ดำเนินการให้ทุกอย่าง ขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็ว มาพบกับคณะผู้บริหารสภาหอการค้าไทย ถือว่าเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ เรารับฟังข้อเสนอแนะข้อกังวล สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลได้ดำเนินการ เพื่อทำให้เกิดความคล่องตัว ทั้งด้านการเงิน ภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย พลังงาน การส่งออก แรงงาน และโอกาสต่างๆ สำหรับประเทศไทยในอนาคต ได้มีการหารือลงในรายละเอียดมากพอสมควร และจะต้องมีการพบกันเป็นประเด็นไปหากมีความจำเป็น แต่ในภาพรวมจะหาโอกาสมาหารือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อถามว่า หารือแล้วได้จัดเตรียมมาตรการความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง นายอนุทิน เผยว่า รับฟังปัญหาต่างๆ เรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการ แรงงาน ภาษี ขนส่งต่างๆ เราพยายามที่จะทะลายข้อจำกัดที่มีอยู่ ไม่จำเป็นไม่ปิดกั้นโอกาส ส่วนรายละเอียด ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำสิ่งเหล่านี้ไปหาทางทำให้คล่องตัวขึ้น […]

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]