ศบค.พอใจติดเชื้อต่ำกว่าหมื่นคน ห่วง 4 จว.ชายแดนใต้

ทำเนียบรัฐบาล 4 ต.ค.- ศบค.พอใจตัวเลขติดเชื้อโควิดต่ำกว่าหมื่น ชี้แม้กลับขึ้นไปเกินหมื่นเล็กน้อย ก็ยอมรับได้ แลกกับการผ่อนคลายให้ประชาชน-ผู้ประกอบการใช้ชีวิตปกติ แต่ห่วง 4 จังหวัดชายแดนใต้ ตัวเลขสวนทาง


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ (4 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 9,930 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,615,229 ราย หายป่วยเพิ่ม 12,336 ราย รวมหายป่วยแล้ว 1,520,503 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 109,748 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3,071 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 719 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 97 คน ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 17,111 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 4 ตุลาคม 2564 จำนวน 1,618,499 ราย โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 9,930 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 9,561 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 8,954 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 607 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 362 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 7 ราย

โดยตัวเลขติดเชื้อวันนี้ (4 ต.ค.) อาจทำให้หลายคนสบายใจ แต่เพิ่งผ่านการผ่อนคลายตามมาตรการ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม จึงคาดการณ์ว่า ตัวเลขอาจขยับขึ้นสูงเกิน 10,000 รายได้ แต่หากเกิน 10,000 รายเล็กน้อย ก็เป็นในทิศทางที่สาธารณสุขสามารถยอมรับได้ เพราะทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติ


ทั้งนี้ แม้ภาพรวมดีขึ้น แต่ ศบค.ยังเป็นห่วงผู้ติดเชื้อในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งวันนี้ (4 ต.ค.) มีผู้ติดเชื้อ 1,968 ราย คิดเป็นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ ใกล้เคียงกับผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีผู้ติดเชื้อร้อยละ 21 แต่ผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ มีแนวโน้มลดลง ขณะที่ผู้เสียชีวิตในพื้นที่ภาคใต้มี 27 ราย และเริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลในครอบครัวที่อาจติดจากสถานที่ทำงาน หรือเดินทางไปในสถานที่เสี่ยง จึงขอฝากไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เข้มงวดมาตรการการสาธารณสุข

นอกจากนี้ ยังมีรายงานที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีร้านอาหารเปิดเกินเวลา และลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใส่แก้วพลาสติก จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำชับมาตรการด้วย

ส่วนการฉีดวัคซีนในพื้นที่ภาคใต้ ยังพบว่า ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 มีจำนวนต่ำกว่าร้อยละ 50 โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ขอให้เพิ่มศักยภาพ ให้หน่วยงานในพื้นที่ โรงพยาบาล ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา ช่วยระดมค้นหาผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้สูงอายุ ให้เข้ามารับวัคซีนตามเป้าหมาย สำหรับยอดการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ 55,150,481 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 32,987,918 ราย, เข็มที่ 2 จำนวน 20,696,791 ราย, เข็มที่ 3 จำนวน 1,465,772 ราย


ขณะที่วันนี้ (4 ต.ค.) เป็นวันแรกของการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน มีผู้ลงทะเบียนสมัครใจกว่า 3.5 ล้านคน จะดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมเน้นย้ำทุกสถานที่ฉีดวัคซีนให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข หรือมาตรการระยะห่าง ดูแลเรื่องความสะอาด ป้องกันการแพร่ระบาด เพื่อให้เป็นโรงเรียนปลอดโควิด ทั้งนี้ หากสถานการณ์เป็นไปตามที่คาดการณ์ ก็อาจจะสามารถเปิดภาคเรียนพร้อมกันได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้

นอกจากนี้ มีรายงานพบคลัสเตอร์ใหม่ที่โรงงานในจังหวัดชลบุรี สงขลา และสมุทรปราการ เรือนจำจังหวัดพัทลุง แคมป์คนงานก่อสร้างใน กทม. ซึ่งได้เข้าไปตรวจแคมป์คนงานก่อสร้างแล้ว แม้บางแคมป์ไม่มีการแพร่ระบาด แต่ก็เฝ้าระวังสุ่มตรวจเป็นระยะ รวมทั้งสุ่มตรวจตลาด 5 แห่งใน กทม. พบรายงานผู้ติดเชื้อ 75 ราย จึงต้องฝากไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่อาจมีแรงงานต่างด้าวทำงานอยู่ในตลาด หรือแคมป์คนงานก่อสร้าง หากพบผู้ป่วยให้รีบแยกออกมารักษาให้ทันท่วงที

ทั้งนี้ นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นห่วงแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีสิทธิในการรักษาพยาบาลใดๆ ก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษา โดยมีการหารือกับโรงพยาบาลในสังกัด กทม. สมาคมโรงพยาบาลเอกชน เพื่อให้แรงงานต่างด้าวเหล่านี้สามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาตามมาตรฐาน รวมถึงการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานต่างด้าวก็จะต้องไม่เลือกปฏิบัติเช่นกัน ส่วนการเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งในส่วนของแรงงานและนายจ้าง และผู้ที่นำเข้ามา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย