กรมชลประทาน 29 ก.ย.-“พล.อ.ประวิตร” ตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กำชับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งคลี่คลายผลกระทบจากน้ำท่วม กำหนดทิศทางการระบายน้ำ ต้องไม่ส่งผลกระทบ ปชช.ท้ายน้ำ แผนอพยพต้องรัดกุม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ตรวจเยี่ยมและติดตามความพร้อมและกล่าวมอบนโยบายในการแก้ไขและบรรเทาปัญหาอุทกภัย ณ ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน พร้อมด้วยนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช.และผู้แทนจาก 5 หน่วยงาน ได้แก่ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มาเพื่อติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อเร่งแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์ในพื้นที่ประสบอุทกภัยให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด โดยเน้นย้ำให้กรมชลประทานเร่งระบายน้ำโดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว ขอเน้นย้ำให้ร่วมมือกัน ประสานงานกันให้ทันต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะการคาดการณ์ที่จะยังมีพายุเข้ามาอีก
“กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. ต้องเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและเตรียมการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ การกำหนดทิศทางการระบายน้ำ ต้องไม่เกิดผลกระทบที่จะทำให้ประชาชนท้ายน้ำเดือดร้อน โดยมอบหมายให้ สทนช. ประสานการปฏิบัติการคาดการณ์กับกรมอุตุฯ และ สสน. เพื่อติดตาม อำนวยการให้ทุกหน่วยทำงานได้สอดคล้องกัน เตรียมการไว้ล่วงหน้า ทั้งเรื่องการรับมือกับพายุและการช่วยเหลือประชาชน” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ให้กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ควบคุมการระบายน้ำลงลำน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้น โดยให้พิจารณากักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งให้ได้มากที่สุดควบคู่กันไปด้วย ขณะเดียวกันกรมชลประทานต้องบริหารการจัดจราจรน้ำ การชะลอน้ำเพื่อหน่วงน้ำไม่ให้เกิดผลกระทบรุนแรง โดยการผันน้ำเข้าไปพื้นที่ลุ่มต่ำหรือแก้มลิงต่าง ๆ และในส่วนปลายน้ำนั้นให้ทำการเร่งระบายออกโดยเร็ว รวมถึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัยกำกับการปฏิบัติแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งแผนการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้รัดกุม
“ให้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยโดยเร็ว และที่สำคัญทุกหน่วยงานต้องแจ้งข่าวสารให้ประชาชนทราบล่วงหน้าถึงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นลงไปถึงระดับหมู่บ้านหรือตำบล และต้องแจ้งให้ทราบถึงการปฏิบัติของหน่วยงานอย่างชัดเจนด้วย รวมถึงนำผลงานที่ปฏิบัติไปประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และสนับสนุนการปฏิบัติงานของภาครัฐในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำของประเทศ” พล.อ.ประวิตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย