เพื่อไทยชี้รัฐขยายเพดานหนี้ = ขยายล้มเหลว

พรรคเพื่อไทย 21 ก.ย.-รองเลขาฯ เพื่อไทยอัดรัฐใช้เงินกู้ 5 แสนล้านบาทล่าช้า สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ ชี้ ขยายเพดานหนี้ เท่ากับขยายความล้มเหลวซ้ำซาก


นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยและกรรมาธิการตรวจสอบ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทฯ แถลงข่าวความคืบหน้า พ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้านบาทและการขยับเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ว่า พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้านบาท มีความล่าช้า และชุ่ย ประเทศไทยเจอการระบาดของโควิด-19 ที่หนักทั้งระลอก 3 และ 4 เจอการล็อกดาวน์ที่เข้มข้น เจอเคอร์ฟิว ธุรกิจล้มละลาย แต่การใช้เงินกู้นี้เพื่อประคองเศรษฐกิจกลับเหมือนอยู่คนละโลก เชื่องช้า อืดอาด เสมือนใช้จ่ายงบประมาณปกติ เม็ดเงินที่ลงสู่ระบบนั้นน้อยนิด ในจำนวน 5 แสนล้านนั้น เพียง 5 หมื่นกว่าล้านที่ลงสู่ระบบ หรือเพียงราว 10% เท่านั้น เศรษฐกิจที่เสียหายจากการล็อคดาวน์เข้มข้นเดือนละ 1.5-2.5 แสนล้านบาท ถูกชดเชยด้วยเงินอัดฉีดเข้าระบบจากเงินกู้ก้อนนี้เฉลี่ยเพียงเดือน 1 หมื่นล้านบาท เมื่อเงินที่อัดฉีดเข้าระบบน้อยกว่าเงินที่หายไปถึง 15 เท่า แบบนี้เศรษฐกิจเดินต่อไม่ได้

“ส่วนด้านสาธารณสุข วงเงิน 30,000 ล้าน เบิกจ่ายเพียง 1,828 ล้าน (หรือ 6%) ประเทศต้องการวัคซีนเร่งด่วน ต้องเร่งฟื้นฟูระบบสาธารณสุขทันที แต่งบปรับปรุงสถานพยาบาลกลับอนุมัติ 0% เบิกจ่าย 0% fhานการฟื้นฟูประเทศวงเงิน 170,000 ล้านบาท อนุมัติ 0% เบิกจ่าย 0% เช่นกัน ไม่มี ไม่ทำ ไม่สร้าง โครงการรักษาระดับการจ้างงาน หรือมาตรการคงการจ้างงาน มีแต่ชื่อโครงการ ถึงวันนี้ อนุมัติ 0% เบิกจ่าย 0% ต้องรอให้คนตกงานทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วค่อยมาตามแก้อย่างนั้นหรือ การกระตุ้นการลงทุน ยังไม่มีการใช้จ่ายเช่นกัน และท้ายสุดจะไปจบที่เราเที่ยวด้วยกัน ชิมช้อปใช้ คนละครึ่ง โครงการชื่อสวย แต่ไร้ประโยชน์เช่นเคย”  นายเผ่าภูมิ กล่าว


นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า แผนงานเงินกู้ 5 แสนล้านบาท ทุกโครงการเป็นโครงการจ่ายทิ้ง ใช้แล้วหมดไปทั้งนั้น ไม่มีเงินฟื้นฟูที่เอาไปสร้างอนาคตประเทศ ไม่มีการสร้างโครงสร้างการพัฒนาให้กับประเทศเป็นชื้นเป็นอัน ไม่มีการจัดสรรงบในส่วนนี้ และแรงงานนอกระบบกว่า 20 ล้านคนถูกละทิ้งจากเงินกู้ 5 แสนล้านนี้ พ่อค้าแม่ค้าในตลาด หาบเร่แผงลอย อาชีพกลางคืนที่ถูกเคอร์ฟิว ฯลฯ เหล่านี้ถูกมองข้าม ไม่มีโครงการเยียวยากลุ่มนี้ ขณะที่การจะขยายเพดานหนี้ นั้นเหมือนเป็นการขยายความล้มเหลวซ้ำซาก

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเข้าใจดีถึงความจำเป็นต้องใช้เงินในการประคองเศรษฐกิจ แต่ต้องเข้าใจเช่นเดียวกันว่าความจำเป็นของการต้องใช้เงินเพิ่มนี้ ทั้งหมดเกิดจากความล้มเหลวของการใช้เงินกู้  2 ก้อนที่ผ่านมา หากใช้ให้ดี เงินกู้ 2 ก้อน มีขนาดที่เหลือเฟือ เราจะไม่เดินมาสู่จุดนี้ ความล้มเหลวของเงินกู้ 1 ล้านล้าน ตามด้วย 5 แสนล้าน และวันนี้เปิดช่องให้รัฐบาลกู้เพิ่มได้อีกราว 1.2 ล้านล้านบาท ไม่น่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ตลอด 7 ปีที่ผ่าน รัฐบาลสร้างหนี้ ไม่สร้างรายได้ หนี้โตเร็วกว่ารายได้ประเทศถึงกว่า 2 เท่าต่อปีโดยเฉลี่ย การขยายเพดานครั้งนี้ เป็นการเปิดช่องให้สร้างหนี้ที่ไม่สร้างรายได้อย่างก้าวกระโดด

“ความอันตรายไม่ได้อยู่ที่ความมั่นคงทางการคลัง แต่กลับอยู่ที่เรากำลังพึงพอใจกับ โ€œค่านิยมล้มเหลวซ้ำซากโ€เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรากำลังสนับสนุนการกู้ไปเรื่อยๆ แบบไร้จุดหมาย กู้แล้วเจ๊ง ก็กู้ใหม่ กู้อย่างไม่มีขอบเขต เป็นวังวน การสร้างหนี้ไม่ใช่ของฟรี เป็นของที่มีราคา หนี้ที่สร้างมาจึงต้องสร้างรายได้ เมื่อหนี้ไม่สร้างรายได้ ระยะต่อไปจะได้เห็นการหารายได้ของรัฐบาลผ่านการขึ้นภาษีต่างๆ ซึ่งยิ่งทำร้ายเศรษฐกิจมากขึ้นไปอีก และถ้าทำไม่ได้ ท้ายสุดจึงลงเอยด้วยการกู้หนี้มาโป๊ะหนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเรียนรู้จากบทเรียนความล้มเหลวในอดีต และไม่ปล่อยให้ความล้มเหลวนั้นเกิดขึ้นอย่างซ้ำซาก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า” นายเผ่าภูมิ กล่าว.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย