fbpx

“ศบค.มท.” สั่งทุกจังหวัดเข้มสกัดโควิด

กระทรวงมหาดไทย 30 ส.ค. – “ศบค.มท.” สั่งทุกจังหวัดเข้มปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 32 เน้นสร้างการรับรู้ประชาชน-ผู้ประกอบการ สกัดโควิด


นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 32) ลงวันที่ 28 ส.ค. 64 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 64 ได้สั่งการไปยังกรุงเทพมหานคร และจังหวัดทุกจังหวัดรับทราบและถือปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ ดังกล่าว โดยเคร่งครัด พร้อมทั้งสร้างการรับรู้แก่ผู้ประกอบการ พนักงาน ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับว่า มาตรการตามข้อกำหนดดังกล่าวมีเจตนารมณ์เพื่อปรับปรุงการบังคับใช้ในบางมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

นายฉัตรชัย กล่าวว่า สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครและทุกจังหวัดให้ดำเนินการ โดยห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค เว้นแต่เป็นกรณีที่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งกิจกรรมหรือการรวมกลุ่มที่ได้รับยกเว้นที่สามารถจัดได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดฯ (ฉบับที่ 30) โดยกำหนดมาตรการเฉพาะในเรื่องจำนวนบุคคลที่เข้ารวมกลุ่มเพื่อทำกิจกรรม โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 25 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุด (37 จังหวัด) ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มมีจำนวนรวมกันมากกว่า 50 คน และพื้นที่ควบคุม (11 จังหวัด) ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มมีจำนวนรวมกันมากกว่า 100 คน ซึ่งมีกิจกรรมที่ได้รับยกเว้น โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ได้แก่ กิจกรรมเกี่ยวกับการขนส่งหรือขนย้ายประชาชน การรักษาพยาบาลและการสาธารณสุข การให้บริการ การให้ความช่วยเหลือหรืออำนวยประโยชน์หรือความสะดวกแก่ประชาชน การรวมกลุ่มของบุคคลตามปกติในที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน การประชุมโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการออกกำลังกายในสถานที่ตามที่ทางราชการกำหนด และกิจกรรมที่ดำเนินโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่จัดโดยองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐโดยความเห็นชอบของหัวหน้าหน่วยงานดังกล่าว หรือกิจกรรมอื่นตามที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านความมั่นคงกำหนด
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจะบังคับใช้ในอนาคต มอบหมาย ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) จังหวัด ศปก.อำเภอ ศปก.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วนในพื้นที่ในมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19) และมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด นอกจากนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดวางระบบ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมอบหมาย ศปก.จังหวัด ศปก.อำเภอ ศปก.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กำกับการปฏิบัติตามมาตรการ ประกาศ หรือคำสั่งจังหวัด ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และกรณีคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร/คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ได้มีมติให้ออกประกาศหรือคำสั่ง ให้ส่งประกาศหรือคำสั่งให้ ศบค.มท. ทราบโดยเร็ว เพื่อรายงานสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป รวมทั้งให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบประกาศหรือคำสั่งโดยทั่วกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบรอง ผอ.โรงเรียนดัง หน.แก๊งค้ายา พบข้าราชการเป็นลูกค้าเพียบ

รวบหัวหน้าแก๊งค้ายาเป็น “รอง ผอ.” โรงเรียนดังย่านปากเกร็ด พร้อมสมุน ขยายผลพบลูกค้าเป็นข้าราชการอีกจำนวนมาก

คนไทย-คนจีนขับรถไล่ชนกันหน้าคลับดังเมืองพัทยา คาดหึงหวงสาวที่มาด้วย

รถตู้ 3 คัน และรถฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน ขับไล่ชนกันไปมา บริเวณหน้าคลับแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พบเป็นศึกระหว่างคนไทย 1 กลุ่ม และคนจีน 1 กลุ่ม สาเหตุคาดมาจากคนจีนหึงหวงแฟนสาวที่มาด้วย

ปัญหาต่างชาติในภูเก็ต ตอนที่ 3

ปัจจุบันการเข้ามาทำธุรกิจรถเช่าของต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีในภูเก็ตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่รถของชาวต่างชาติในภูเก็ตก็มากขึ้นด้วย ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่โยงใยไปถึงเรื่องของภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว ไม่เฉพาะแค่ภูเก็ต แต่เป็นของเมืองไทยด้วย

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง คุณหญิงพรทิพย์ และพวก ในคดี GT200

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง “คุณหญิงพรทิพย์” และพวกรวม 10 คน ในคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ระบุไม่พบมีมูลความผิด ทุจริต มีการแสวงหาประโยชนแก่ตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ

ข่าวแนะนำ

สยอง! เครนก่อสร้างถล่ม เสียชีวิตหลายราย

เครนถล่มในไซต์ก่อสร้างบริษัทจีนแห่งหนึ่งใน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย บาดเจ็บอีกหลายราย กู้ภัยถูกปิดล้อม ยังไม่ยอมให้นำศพออกมา

นายกฯ ขอให้เชื่อมั่น นำ ปท.แก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย  

“เศรษฐา” ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ เข้าใจธุรกิจ พร้อมนำประเทศแก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย ลงมามือเปื้อนดิน ตีนเปื้อนโคลนบ้าง น้อยใจ รมว.คลัง ไม่มีอำนาจลดดอกเบี้ย  

“บิ๊กต่อ” ส่งทนายยื่นฟ้อง “ทนายตั้ม” แฉโยงเส้นเงินพนัน

“บิ๊กต่อ” ส่ง “อัจฉริยะ” เดินหน้าชน “ทนายตั้ม” ยกแรกยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท หลังถูกกล่าวหาว่ามีเส้นเงินจากเว็บพนันโยงคนใกล้ชิด ผบ.ตร.