ถกงบฯ 65 วันที่ 2 ผ่านแล้ว 17 มาตรา พิจารณาต่อพรุ่งนี้

รัฐสภา 19 ส.ค. – ถกงบฯ ปี 65 วันที่ 2 กร่อย ฝ่ายค้านไล่บี้ “ดีอีเอส” แนะตัดงบฯ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ชี้ไม่เป็นกลางทางการเมือง ปกป้องแต่รัฐบาล


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วันนี้ (19 ส.ค.) เป็นการประชุมวันที่ 2 พิจารณาต่อรายมาตรา วาระ 2 ในส่วนของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยที่ประชุมเห็นชอบกับที่กรรมาธิการเสียงข้างมากเสนอปรับลด

สำหรับการอภิปรายรายมาตราตลอดทั้งวันเป็นไปอย่างราบรื่น มีการอภิปรายเข้มข้นในช่วงของงบฯ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ขอปรับลดงบฯ ของกระทรวงดีอีเอส ร้อยละ 10 โดยเฉพาะในส่วนของกรมอุตุฯ ซึ่งตั้งงบฯ ถึงประมาณ 1,100 ล้านบาท โดยมองว่า กรมอุตุฯ บริหารงานล้มเหลว สร้างความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน เช่น โครงการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจวัดข้อมูลอุตุนิยมวิทยาระดับตำบลและอำเภอให้เป็นระบบอัตโนมัติ งบประมาณ 615 ล้านบาท ที่เมื่อได้งบประมาณก็ไปประกาศตั้งกรรมการร่างทีโออาร์ครั้งแรก ปรากฏว่า ทีโออาร์ออกไม่ได้ สุดท้ายโครงการเดียวกันเปลี่ยนกรรมการร่างทีโออาร์ถึง 3 ครั้ง เปลี่ยนเหมือนรอบริษัทไหนอยู่ ขณะที่อธิบดีกรมอุตุฯ ยืนยันกับกรรมาธิการฯ ว่า งบประมาณก้อนนี้ใช้ทันและเซ็นสัญญาทันก่อน 30 กันยายน 2564 สุดท้ายวันนี้ยังอยู่ในขั้นออกทีโออาร์ แสดงให้เห็นว่า การบริหารงานขาดประสิทธิภาพ ล้มเหลว เสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน


ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขอตัดงบฯ กระทรวงดีอีเอส ในโครงการศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอม โดยขอตัดทิ้งทั้งโครงการ จำนวนเงิน 79,997,000 บาท โดยระบุว่า สาเหตุที่เราไม่ควรให้งบประมาณกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เพราะโครงการนี้ไม่สามารถดำเนินงานได้ตามวิสัยทัศน์และมาตรฐานที่เคยได้ให้ไว้ตั้งแต่ที่จัดตั้งขึ้น โดยการดำเนินงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม มีปัญหาตั้งแต่ใช้คำว่า “เฟคนิวส์” ที่ในระดับนานาชาติเห็นตรงกันว่า คำว่าเฟคนิวส์ไม่สามารถอธิบายปัญหาที่ซับซ้อนตามเจตนาของผู้เผยแพร่ข่าวได้ อีกทั้งยังมีปัญหาเกี่ยวกับความเป็นกลางและการลำเอียง ที่ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมเลือกที่จะตรวจสอบเฉพาะข่าวปลอมที่เป็นผลลบต่อนโยบายรัฐบาลเท่านั้น เพราะเมื่อมีข่าวปลอมที่เป็นผลบวกกับรัฐบาล แม้ได้รับการยืนยันจากองค์กรนานาชาติว่าเป็นข่าวปลอม ก็ไม่มีการตรวจสอบ

“ศูนย์นี้ตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องรัฐบาล หรือฟากฝ่ายการเมืองใดฝั่งหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น ตราบใดที่หน่วยงานที่ทำการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงเป็นหน่วยงานภายใต้รัฐโดยตรง ไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะเป็นรัฐบาล เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกครหาหรือไม่ถูกครหาด้านความเป็นกลาง” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า ตนเห็นด้วยว่าปัญหาข่าวปลอมเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข แต่การไล่ฟ้องดำเนินคดีกับประชาชนไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน และการที่อำนาจในการชี้ว่าสิ่งใดคือความจริงและความเท็จไปอยู่กับหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับฝ่ายการเมือง และเป็นหน่วยงานเดียวกันที่ถืออำนาจทางกฎหมายในการดำเนินคดีกับประชาชน ก็ไม่มีทางสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ทำให้หากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สร้างข่าวปลอมเสียเอง ใครจะเป็นคนดำเนินคดี ดังนั้น ควรจะส่งเสริมองค์กรลักษณะนี้ให้เกิดจากความร่วมมือของภาคประชาสังคมและสื่อมวลชน ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นอิสระจากภาคการเมือง มีความเป็นกลางมากกว่า ตราบใดที่หน่วยงานตรวจสอบข้อเท็จจริงยังอยู่ภายใต้อำนาจของรัฐ ก็ไม่สมควรได้งบประมาณแม้แต่บาทเดียว


การประชุมในวันนี้ ที่ประชุมให้ความเห็นชอบถึงมาตราที่ 17 ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อนจะปิดการประชุมในเวลา 20.18 น. โดยวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.) จะเริ่มพิจารณาต่อในมาตราที่ 18 งบประมาณในส่วนของกระทรวงพลังงาน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

เพลิงไหม้หม้อแปลงใหญ่สถานีย่อยแสนแสบ ทำไฟดับทั้งพระราม 9

ระทึก! เพลิงไหม้หม้อแปลงขนาดใหญ่ สถานีไฟฟ้าย่อยแสนแสบ ย่านดินแดง ทำไฟดับทั้งพระราม 9 ผู้คนโกลาหล ล่าสุด จนท.คุมเพลิงได้แล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบ แนะหลีกเลี่ยงเส้นทาง

วันที่ 12 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง.ถล่ม

วันที่ 12 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้าเคลียร์พื้นที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณปล่องบันไดหนีไฟ ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

“เจ้าคุณธงชัย” มอบผ้ายันต์ “สำเร็จทุกสิ่ง” ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย

“เจ้าคุณธงชัย” มอบผ้ายันต์ “สำเร็จทุกสิ่ง” ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม ด้านผู้ว่าฯ กทม. เตรียมทำบุญใหญ่ให้ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้

พบรถคนร้ายชิงทองจอดทิ้งก่อนเปลี่ยนชุดหลบหนี

แกะรอยล่าคนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงทองห้างทองกลางเมืองหาดใหญ่ กวาดไป 184 บาท มูลค่ากว่า 9 ล้านบาท ล่าสุดพบรถคนร้ายจอดทิ้งก่อนเปลี่ยนชุดหลบหนี