ทำเนียบรัฐบาล 18 ส.ค.-ผู้นำกลุ่มแรงงาน พอใจได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาลหลังเจอพิษโควิด ขณะ “พล.อ.ประวิตร” ประชุมตามผลงานก.แรงงานรอบ 1 ปี ชื่นชมขับเคลื่อนนโยบายได้ตามเป้า กำชับช่วยนายจาวง ผู้ประกันตนให้ครบถ้วน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานประชุมติดตามผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปีของกระทรวงแรงงงาน โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานร่วมประชุม ผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับแรงงาน 76 จังหวัด และสำนักงานแรงงานในต่างประเทศ
ก่อนการประชุม นายสุชาติ ได้นำผู้แทนกลุ่มแรงงาน ได้แก่ นายวิฑูรย์ แนวพานิช นายกสมาคมการค้าแท็กซี่ไทย นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย และนางญาดา พรเพชรรัมภา นายกชมรมหาบเร่แผงลอย กทม. มอบของที่ระลึกและกล่าวขอบคุณพล.อ.ประวิตร ผ่านนายสุชาติในโอกาสที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือ เยียวยาแรงงานทั้ง 3 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างดียิ่ง และประทับใจต่อการดำเนินงานของกระทรวงแรงงาน
จากนั้นที่ประชุมรับฟังการรายงานผลงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีผลงานที่สำคัญ อาทิ การยกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ สามารถผ่านการอบรมแล้ว 110,110 คน มีงานทำแล้วคิดเป็น ร้อยละ 69.79 มีรายได้เฉลี่ย 14,152 บาทต่อเดือน การส่งเสริมการมีงานทำสามารถบรรจุงานได้ 1,313,591 คน ก่อให้เกิดรายได้ 75,728 ล้านบาท เศษ การคุ้มครองและแก้ไขปัญหาแรงงานถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ให้ลูกจ้าง 16,000 คน วงเงิน 850 ล้านบาท การเพิ่มประสิทธิภาพ การบังคับใช้กฎหมายโดยตรวจสถานประกอบกิจการป้องกันการค้ามนุษย์ 1,211 แห่ง
ทั้งนี้ จากสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงแรงงานสามารถเยียวยาแรงงาน ผู้ประกันตน ลดเงินสมทบกว่า 12 ล้านคน นายจ้างกว่า 480,000คน เยียวยาเหตุสุดวิสัย 50% ให้ผู้ประกันตน 198,432 คน โครงการ ม.33 เรารักกัน 8,140,000 คน รวมทั้งการเยียวยาในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ในการตรวจเชิงรุก และการรักษาโควิด-19 อย่างทั่วถึง เป็นต้น
พล.อ.ประวิตร กล่าวชื่นชมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกระดับของกระทรวงแรงงานทุกคน ที่ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง เป็นธรรม มีผลงานเชิงประจักษ์ พร้อมให้กำลังใจการปฏิบัติงาน และมอบนโยบายให้เร่งช่วยเหลือทั้งนายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และม.40 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และยังรอการช่วยเหลือให้ครบถ้วน ทั่วถึงต่อไป รวมทั้งขอให้จัดระเบียบแรงงานต่างด้าว และเน้นย้ำป้องกันการค้ามนุษย์โดยมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย