รัฐสภา 4 ส.ค.-ก้าวไกลแฉ กมธ.รธน.หวังสอดไส้ร่างแก้รธน.ของพปชร.ที่ตกไปแล้วกลับมา เหตุร่างฉบับปชป.ไม่ชัดเจน
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2 แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมหารือปัญหาการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของพรรคประชาธิปัตย์ที่เสนอแก้ไขระบบเลือกตั้งเพียง 2 มาตรา คือมาตรา 83 และ 91 โดยไม่ระบุเรื่องการแก้ไขที่ชัดเจน และยังมีอีก 8-9 มาตราที่เกี่ยวกับระบบเลือกตั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เสนอแก้ไข ทำให้มีการเสนอ ยกข้อบังคับการประชุมสภาที่ 124 มาใช้เพื่อให้สามารถพิจารณาแปรญัตตินอกเหนือจากที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอมาได้
“แต่แทนที่จะแก้ปัญหาให้ตรงจุด กลับมีความพยายามจะนำเนื้อหาในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐที่ถูกตีตกไป แล้วกลับมาแปรญัตติเพิ่มซึ่งผิดหลักการ ทั้งที่ควรหาความชัดเจนให้ถูกต้องว่า จะเดินหน้าแก้ไข 2 มาตราของพรรคประชาธิปัตย์อย่างไร ไม่ให้ไปขัดกับมาตราอื่น ๆ ที่ประชุมโต้แย้งให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ประธานในที่ประชุมคือนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พยายามตัดบท และมีความพยายามเสนอตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาซึ่งพรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วย เพราะไม่มีความโปร่งใส อาจมุบมิบใช้เสียงข้างมากลากไปได้” นายธีรัจชัย กล่าว
นายธีรัจชัย กล่าวว่า เรื่องนี้แม้แต่นางกาญจนรัตน์ ลีวิโรจน์ สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นอดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญก็ยืนยันว่าการแปรญัตติเพื่อยกข้อบังคับที่ 124 มาใช้สามารถทำได้ หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์มีหัวเรื่องที่ชี้เจตนารมณ์ว่าต้องการแก้ไขระบบเลือกตั้งทั้งหมด ไม่ใช่พิจารณาเพียงรายมาตราอย่างเดียว ซึ่งในร่างของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ระบุเหตุผลข้อนี้ไว้ ทำให้จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะสามารถแปรญัตติเกินจากที่พรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่
“กรรมาธิการ ยังมีความพยายามจะเร่งพิจารณาแปรญัตติให้เสร็จภายในกลางเดือนนี้ ทั้งที่กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และยังไม่ผ่านการรับฟังความเห็นจากประชาชน เหมือนเป็นเพียงพิธีกรรม ที่ตอนนี้มี 2 ทาง คือหากแปรญัตติเกินจากที่ประชาธิปัตย์เสนอได้ ก็จะนำร่างของ พลังประชารัฐกลับมาเพิ่ม หรือหากไม่สามารถแปรญัตติเกินได้ ก็หวังให้ถูกตีตก เพราะร่างที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอมาไม่ชัดเจน เพราะหากเดินหน้าให้ 2 มาตราที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอมาผ่านไปได้ ก็จะขัดกับมาตราอื่น ๆ ดังนั้น ควรทำให้ถูกต้อง” นายธีรัจชัย กล่าว
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีปรากฎการณ์สอดไส้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้ร่างที่ถูกคว่ำไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยที่ นายไพบูลย์เพิกเฉย ไม่หาข้อยุติปัญหาดังกล่าว ทั้งที่กำลังแก้ไขเรื่องสำคัญ ส่งผลต่อประชาชนโดยตรง จึงขอเรียกร้องและเตือนสติให้นายไพบูลย์ทำหน้าที่ประธานให้ดีกว่านี้ ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้คัดค้านระบบเบือกตั้ง 2 ใบที่เสนอมา เพราะเชื่อว่าระบบบัตรใบเดียวไม่ได้สะท้อนเจตนารมณ์ ของประชาชนที่แท้จริง แต่ควรใช้วิธีการคำนวณแบบระบบ MMP.-สำนักข่าวไทย