“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย

จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จับกุมได้ทุกวัน​ และจากร่องรอยก็จะพบว่า​ เพิ่งก่อประตูปิดช่องไป​ แต่ก็ยังพบมีช่องที่ใช้การขุดดินลอดข้ามไป​ ซึ่งทางทหารยอมรับว่า​ พื้นที่ตรงนี้อาจจะดูแลยาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ของเอกชน


นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ได้ถามถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ต ด้าน พ.อ.เมธี กล่าวว่า หลังมีมาตรการคุมเข้มชายแดน ได้มีการลดระดับการปล่อยสัญญาณ ทำให้การใช้สัญญาณโทรศัพท์ตามแนวชายแดนจะเปิดใช้เฉพาะฝั่งไทย ส่วนฝั่งกัมพูชาจะไม่ได้รับสัญญาณ

พ.อ.เมธี ยังระบุว่า การเข้มตามชายแดน นอกจากมีการใช้ลวดหนามขึงตลอดแนวแล้ว ตั้งแต่คลองลึกถึงป่าไร่ก็จะมีจุดตรวจประจำ ส่วนการตรวจตราจะมีการลาดตระเวน และดูผ่านกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ระบบการป้องกันดูแลตามแนวชายแดน จะดูในทุกเรื่อง เช่น ปัญหายาเสพติด อาชญากรรมทางเทคโนโลยี แก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ จะมีการประสานงานร่วมกับฝั่งกัมพูชา และหมู่บ้านมั่นคงตามแนวชายแดน ซึ่งจะมีแหล่งข่าวแจ้งเตือนทางฝั่งไทยถึงความเคลื่อนไหวของกัมพูชา อีกทั้งยังมีการลาดตระเวนร่วมกันระหว่างทหารพรานของไทยกับทหารกัมพูชา และมีการตั้งจุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย ตามช่องทางคมนาคมที่จะแอบลักลอบไปฝั่งกัมพูชา เพื่อป้องกันไม่ให้มีการข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย

จากนั้น นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้การลงพื้นที่ของ กมธ. พร้อมผู้นำฝ่ายในสภาฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตั้งอนุ กมธ. ได้จัดทำรายงานในข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งระบบไปยังรัฐบาล เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ รวมถึงการค้ามนุษย์ที่มีความรุนแรง ต้องยอมรับว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา มีความรุนแรงมาก โดยก่อนหน้านี้เราเห็นความคืบหน้าไปบ้าง มีการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ในฝั่งกัมพูชา ความคืบหน้ายังไม่น่าพึงพอใจเท่าไหร่ ซึ่งต้องการความคืบหน้ามากกว่านี้


การลงพื้นที่ครั้งนี้ ต้องขอบคุณผู้บังคับการทหารพรานที่ 12 เพื่อให้เราเข้าใจถึงปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของกัมพูชา อย่างไรก็ตาม แม้ไทย-กัมพูชา มีความขัดแย้งเกิดขึ้นตามแนวชายแดน และมีมาตรการหลายอย่างเกิดขึ้น รวมถึงมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่มีความพยายามในการข้ามไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาจจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ยังมีอยู่ และเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการจับกุมอยู่เป็นระยะ และต้องยอมรับว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์เติบโตมากในกัมพูชา และเท่าที่ได้มีการพูดคุย มูลนิธิอิมมานูเอล รู้ละติจูดลองจิจูดทั่วประเทศกัมพูชาแล้ว จึงสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มายกระดับปราบปรามได้

เมื่อเรามองแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อย่ามองแค่เรื่องการโกงเงิน แต่หนึ่งในปัญหาที่มีความร้ายแรงคือการค้ามนุษย์ ซึ่งทั่วโลกให้ความสำคัญ เราไม่ควรปล่อยให้มีเหตุการณ์ค้ามนุษย์แบบนี้ แน่นอนแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน กฎหมายไทยไม่ถึง แต่ตนเชื่อว่ากลไกกฎหมายระหว่างประเทศยังมีอยู่ ซึ่งจะต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งจะมีการพูดคุยใน กมธ.

วันนี้นอกจากการลงพื้นที่ของพวกเราแล้ว ยังมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมลงพื้นที่ด้วย ซึ่งต้องขอขอบคุณทหารพราน ที่มาช่วยอำนวยความสะดวกในวันนี้ ตนเล็งเห็นความตั้งใจ แต่พื้นที่ชายแดนต้องการการสนับสนุนจากทุกรูปแบบมากกว่านี้ เพื่อแก้ไขปัญหา และคงไม่ใช่เรื่องที่สามารถแก้ปัญหาชั่วข้ามคืนได้

ส่วนเป้าหมายในการมาครั้งนี้ต้องการอะไรกลับไป นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กมธ. จะต้องนำรายละเอียดมาพูดคุยและสำรวจต่อไปว่า นโยบายต่างๆ เรื่องของชายแดนเป็นอย่างไร และนโยบาย Seal Stop Safe ของรัฐบาล ตนคิดว่าไม่ได้ขัดแย้งกับ กมธ. แต่ต้องศึกษารายละเอียดในการดูตั้งแต่เรื่องของการตัดอินเทอร์เน็ต รวมถึงการตัดไฟให้กัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้กัมพูชาตัดเองแล้ว หากวันข้างหน้ากัมพูชากลับเข้ามาต่อไฟฟ้าใหม่ เราต้องมานั่งคุยกันว่า ไฟของเราจะยังไหลไปฝั่งกัมพูชาหรือไม่

นายรังสิมันต์ ยังชี้ไปที่ตึกฝั่งตรงข้าม โดยอาคารที่บริเวณฝั่งกัมพูชา เป็นที่น่าสงสัยเกี่ยวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ซึ่งต้องการไฟฟ้าและพลังงาน โดยภาพรวมเราสงสัยว่าอาจจะเป็นเมืองสแกมเมอร์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ โดยเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในประเทศเดียว ฝ่ายนโยบายต้องไปพูดคุย เพื่อชวนนานาชาติมาร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ที่เคยไปพูดคุยกับองค์กรตำรวจ ซึ่งเสียหายจากการโดนหลอก คาดว่าจะเยอะกว่าประเทศไทยด้วยซ้ำ

ส่วนโครงการรั้วข้ามแดนกว่า 300 ล้านบาท ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วได้มีการเสนอนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่สามารถเสนอ ซึ่งหากมีการเสนอเข้ามา เราสามารถพูดคุยกันได้อยู่แล้ว

“เมื่ออยากจะสร้างกำแพงชายแดน ในตอนนี้มีเทคโนโลยีเสาเซ็นเซอร์ มีเรดาร์ตรวจจับได้หมด ไม่ว่าจะเป็นแมว สุนัข หรือนก สามารถระบุได้หมด ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องลงทุน และในประเทศไทยประดิษฐ์ได้ สามารถเป็นการสร้างงานในประเทศได้ด้วยซ้ำไป ต้องไม่ลืมว่าจุดที่เราอยู่มีรั้ว แต่จุดที่มีรั้ว ก็มีการข้ามเข้าออกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อยู่ ดังนั้นหากพิจารณาทำเป็นรั้ว คงต้องไม่ใช่มีแค่รั้ว“

นายรังสิมันต์ ยืนยันว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้จะมีการพูดคุยถึงกลุ่มทุนที่เป็นเบื้องหลังของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเข้มข้นด้วย ซึ่งคาดว่าจะลงในรายละเอียดพรุ่งนี้ ตอนนี้ตนได้ชื่อเพิ่มมาอีก 1 ชื่อ ซึ่งเกี่ยวพันกับผู้มีอำนาจในกัมพูชา วันนี้ถือเป็นการมาให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน

เมื่อถามว่า ช่องธรรมชาติที่เห็นเป็นธรรมชาติโดยแท้จริง หรือจงใจให้เป็นช่องธรรมชาติ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เพื่อความแฟร์ ตนเข้าใจว่าการเข้าออกของทั้ง 2 ประเทศไม่ได้ยากอยู่แล้ว ถ้าความพยายามก็ข้ามได้ เรายอมรับว่า การขนคนภายใต้มาตรการที่เข้มข้น ต้องมีเครือข่ายและขบวนการ เราต้องดูว่าคนที่เกี่ยวข้องมีใครบ้าง ซึ่งตนได้รายชื่อมาบางส่วนแล้ว คงต้องมีการพูดคุยกับหน่วยงาน

ด้านนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ. กล่าวช่วงหนึ่งว่า กำแพงรั้วที่เกิดขึ้นเป็นกำแพงที่สร้างขึ้นโดยเอกชนฝ่ายไทยเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ทางฝั่งไทยคอยตรวจตรา ในขณะที่ฝั่งกัมพูชาเป็นพื้นที่โล่ง ทำให้ไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบอะไรเลย.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]