ขยายมาตรการช่วยแรงงาน-ผู้ประกอบการ 29 จว.แดงเข้ม

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – ที่ประชุม ครม. เห็นชอบขยายขอบเขตมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และให้ความช่วยเหลือกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการในพื้นที่สีแดงเข้ม พร้อมเพิ่มกรอบวงเงินการให้ความช่วยเหลือเป็น 60,000 ล้านบาท จากเดิม 30,000 ล้านบาท


สำหรับรายละเอียดคือ ปรับเพิ่มพื้นที่ดำเนินการจากเดิม 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด โดย 13 จังหวัดสีแดงเข้มที่ประกาศครั้งแรกเพิ่มระยะเวลาให้ความช่วยเหลือเป็น 2 เดือน คือในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา

ส่วน 16 จังหวัดเพิ่มเติมให้ความช่วยเหลือ 1 เดือน คือในเดือนสิงหาคม ได้แก่ กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง


ส่วนการโอนเงินนั้น กระทรวงแรงงานแจ้งว่าในวันที่ 4-6 สิงหาคมนี้ จะโอนเงินเยียวยางวดแรกให้ลูกจ้างผู้ประกันตนมาตรา 33 และนายจ้าง ผู้ประกอบการมาตรา 33 ตามจำนวนลูกจ้าง ในพื้นที่ 10 จังหวัดแรกที่มีการประกาศเป็นพื้นที่สีแดงเข้มตั้งแต่แรกเริ่ม (กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา) ผ่านเข้าบัญชีพร้อมเพย์เท่านั้น หรือบัญชีนิติบุคคลสำหรับผู้ประกอบการ ส่วน 3 จังหวัดที่มีประกาศตามมาคือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา จะมีการโอนเงินในวันที่ 9 สิงหาคม

ส่วนเงินเยียวยามาตรา 39 และมาตรา 40 คาดว่าจะโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์แก่ผู้ประกันตนในวันที่ 24 สิงหาคม พร้อมกัน

สำหรับกลุ่มเป้าหมายยังคงครอบคลุมกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการในกิจการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในส่วนที่อยู่ในระบบประกันสังคมและไม่อยู่ในระบบประกันสังคม


ประเภทกิจการที่ให้ความช่วยเหลือคือ กิจการในระบบประกันสังคมจะครอบคลุม 9 สาขา และในกลุ่มผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ภายใต้โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ ที่ผ่านการคัดกรองแล้ว และไม่เป็นผู้ถูกตัดสิทธิจากกระทรวงการคลัง จำนวน 5 กลุ่ม โดยรูปแบบการให้ความช่วยเหลือเป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา คือ ลูกจ้าง ผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับเงินช่วยเหลือ 2,500 บาทต่อคน ชดเชยเงินเดือน 50% ของค่าจ้าง รวมไม่เกินคนละ 10,000 บาท, ผู้ประกอบการ ได้เงินช่วยเหลือรายละ 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน จำกัดไม่เกิน 200 คน, ผู้ประกันตน มาตรา 39 และมาตรา 40 รับเงินช่วยเลือก 5,000 บาท ส่วนผู้ประกอบการ รับเงินช่วยรายละ 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน จำกัดไม่เกิน 200 คน

ส่วนกลุ่มรถแท็กซี่ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ซึ่งไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ทำให้ไม่สามารถได้รับความช่วยเหลือตามมติ ครม. ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานเร่งจัดทำข้อเสนอโครงการให้ความช่วยเหลือ เพื่อนำเข้าที่ประชุมเพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในโอกาสต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ