fbpx

จี้ทบทวนข้อกำหนดปิดปากสื่อ

กทม. วันนี้  ( 30 ก.ค.)  “เชาว์” จี้รัฐทบทวนข้อกำหนดปิดปากสื่อโดยด่วน  ก่อนแผ่นดินลุกเป็นไฟ เพราะเสรีภาพการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนถูกปิดกั้น   อำนาจปิดปากคนได้ แต่ปิดความจริงไม่ได้  อย่าซ้ำเติมวิกฤติโรคระบาด ถ้าไม่แก้ข้อกำหนดคนที่ต้องโดนดำเนินคดีก่อน คือ  หมอทวีศิลป์-หมอเบิร์ด


นายเชาว์ มีขวด  อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์  โพสต์เฟสจ์บุ๊ค เรื่อง อำนาจอาจปิดปากได้ แต่ปิดความจริงไม่ได้  มีเนื้อหาระบุ ว่าเมื่อวานนี้ (29 ก.ค.) ราชกิจจานุเบกษา ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 29) เพื่อให้สอดคล้องกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร  ที่ขยายเวลาการบังคับใช้ประกาศออกไป จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564  มีเนื้อหา 4 ข้อ  หัวใจหลักอยู่ที่ข้อ 1 ห้ามผู้ใดเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลาย ซึ่งหนังสือสิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด ที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามข้อความที่ประกาศนี้

นายเชาว์  เห็นว่าหน่วยงานที่จะโดนดำเนินคดีก่อนคือ ศบค.  ที่แถลงข่าวรายวัน เพราะทุกคำแถลงมีแต่ข่าวร้ายจากความจริงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่  เช่น เมื่อวานนี้มีผู้ตายคาบ้าน 21 คน  ตัวเลขผู้ติดเชื้อทำนิวไฮ  รวมถึงผู้เสียชีวิตด้วย  นี่เป็นข้อมูลที่เข้าข่ายทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือไม่  แต่ควรพูดหรือไม่   ควรเพราะนี่คือความจริงของประเทศไทยวันนี้


“ผมอยากให้ผู้มีอำนาจในขณะนี้ตระหนักไว้ ว่าอำนาจปิดปากคนได้ แต่ปิดความจริงไม่ได้ ในวิกฤตโรคระบาดที่ทุกคนถามหาความช่วยเหลือ  ขอให้เปิดเผยความจริง  แต่ถูกปิดปากโดยกฎหมาย  อย่าให้ความวิตกจริตของผู้นำ  มาทำลายเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนเลย   พวกบิดเบือนจงใจให้ข้อมูลเท็จ  มีกฎหมายที่จะจัดอยู่แล้ว จัดการเด็ดขาดไปเลยครับ  แต่ต้องไม่ฟาดงวง  ฟาดงา  มาถึงคนสุจริตที่เขาให้ความจริงกับสังคม ไปปรับข้อความในข้อกำหนดเสียใหม่เถอะครับ ก่อนที่แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ  เพราะในอดีตไม่เคยมีรัฐบาลไหนอยู่ได้ด้วยกฎหมายที่กดขี่เสรีภาพของประชาชน” นายเชาว์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง