รัฐสภา 29 ก.ค.-ตัวแทนกล่ามโมกหลวงร้องกมธ.กฎหมายสอบตำรวจ ใช้ความรุนแรงสลายชุมนุม 18 ก.ค.พร้อมเรียกผบ.ตร.ตำรวจแจงข้อเท็จจริง
ตัวแทนกลุ่มโมกหลวง ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายรังสิมันต์ โรม โฆษกกรรมมาธิการญ เรียกร้องให้สอบสวนและตรวจสอบการใช้ความรุนแรงสลายชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยตัวแทนกลุ่มโมกหลวง กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่จะเห็นว่ามีคลิปจากสื่อต่าง ๆ ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจขัดขวาง ปิดกั้นการชุมนุม และใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม โดยใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามหลักสากล ไม่คำนึงว่าจะเป็นอันตรายกับผู้ชุมนุมอาจถึงแก่ชีวิตได้ เนื่องจากใช้รถฉีดน้ำฉีดเข้าหาตัวบุคคล และยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม รวมทั้งกระสุนยาง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตราย
ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่มโมกหลวง ขอให้ตรวจสอบการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมประกอบด้วย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล1 พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน รวมทั้งขอให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณการจัดซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้สลายการชุมนุม ซึ่งทางกลุ่มมีหลักฐานทั้งกระป๋องแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาการชุมนุมที่ดีที่สุดไม่ใช่การใช้แก๊สน้ำตาไม่ใช่ใช้ความรุนแรง แต่การทำหน้าที่ของรัฐบาลในการแก้ปัญหาโควิด-19 ให้ดีที่สุด และข้อเรียกร้องหลายข้อเป็นสิ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้ทันที แต่รัฐบาลกลับไม่ตอบสนอง ในฐานะกรรมาธิการฯ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของกมธ.ทันที แต่เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงอาจยังไม่มีการประชุมอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น เมื่อกรรมาธิการฯ กลับมาทำหน้าที่จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดการตรวจสอบต่อไป เพราะจากการเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ชุมนุม เห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นว่าขัดต่อมาตรฐานในการจัดการผู้ชุมนุมอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย