รัฐสภา 31 พ.ค.- ตัวแทนกลุ่มศาลาเพื่อประชาธิปไตย ยื่นจดหมายเปิดผนึก เรียกร้อง 3 ข้อ จี้ “นายกฯ-อนุทิน” ลาออก หลังบริหารโควิดล้มเหลว
ตัวแทนกลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ในนามราษฎร ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลผ่าน ส.ส.พรรคก้าวไกล น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล , นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เพื่อให้ติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงการจัดการกับวิกฤติโควิด 19 ที่ไร้ประสิทธิภาพ
โดยตัวแทนกลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ตลอด 1 ปีที่เกิดวิกฤติโควิด-19 รัฐบาลไม่สามารถป้องกันโรคระบาดได้ ส่งผลให้กิจการ สถานประกอบการหลายแห่งต้องปิดตัวลง ประชาชนตกงาน รวมถึงการบริหารจัดการวัคซีนที่ล้มเหลว ทั้งที่เคยประกาศว่าประชาชนจะได้รับวัคซีน 15 ล้านโดสต่อเดือน หรือ 5 แสนโดสต่อวัน แต่ทุกวันนี้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างมากเพียง 1 แสนโดสต่อวันเท่านั้น ซึ่งสร้างความสับสนกับประชาชน อีกทั้งยังมีการประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีน จากเดิมที่ตั้งเป้าฉีดให้ได้ครบภายในปีนี้ กลับเลื่อนเป็นปีหน้าแทน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังสร้างความรู้สึกไม่มั่นคงกับประสิทธิภาพของวัคซีน โดยนายกฯรับวัคซีนแอสตราเซเนกา แต่ประชาชนรับวัคซีนซิโนแวค ทำให้เกิดคำถามว่า ความเท่าเทียมที่ประชาชนควรได้รับอยู่ตรงไหน และเมื่อเกิดผลข้างเคียงรัฐบาลกลับอ้างเป็นเพราะโรคประจำตัว ไม่หาสาเหตุที่แท้จริง
ดังนั้นกลุ่มศาลายาและราษฎร ขอเสนอ 3 ข้อเรียกร้องแก่รัฐบาล คือ 1.เพิ่มความพยายามจัดหาวัคซีน สร้างระบบจัดการให้ประชาชนเข้าถึงการฉีดวัคซีนได้อย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพ และต้องได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง 2.เปิดเผยข้อมูลการจัดการกับโรคโควิด-19 ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต หรือสัญญาในการจัดหาวัคซีน เพื่อให้ประชาชนติดตามตรวจสอบได้ และ 3.พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องลาออกจากตำแหน่ง เหมือนกับผู้นำหลายประเทศในการแสดงความรับผิดชอบที่ไม่สามารถจัดการกับวิกฤติที่มีอยู่ได้ พร้อมเปิดทางให้บุคคลที่มีประสิทธิภาพเข้ามาบริหาร
ด้าน นายณัฐชา กล่าวว่า จะนำข้อเรียกร้องหารือกับที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน ซึ่งส.ส.พรรคก้าวไกล จะนำเรื่องนี้อภิปรายในการประชุม ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ รายจ่ายประจำปี 2565 เพื่อชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลจัดสรรงบประมาณผิดพลาด ไม่สอดคล้องกับสถานการวิกฤติโควิด-19.-สำนักข่าวไทย