พล.อ.ประวิตร สั่งช่วยเกษตรกรได้รับผลกระทบโควิด

กทม. 29 พ.ค.-พล.อ.ประวิตร สั่ง บจธ.ช่วยเกษตรกร ได้รับผลกระทบโควิด-19 จัดหาที่จำหน่ายผลผลิต ส่งต่ออาหารปลอดภัยให้ประชาชน

วันนี้ 29 พฤษภาคม 2564 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานบอร์ด บจธ.เปิดเผยว่า จากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภาวะวิกฤต ระบาด covid-19 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแล สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ มีความห่วงใย พ่อแม่พี่น้อง ประชาชน รวมถึง เกษตรที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาด ของ โรคโควิด 19 ได้สั่งการให้ บจธ. ดำเนินการ ช่วยเหลือ ประชาชนอย่างเร่งด่วน บจธ.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจลดความเหลื่อมล้ำด้านที่ดินทำกินเพื่อให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่มาเป็นหลักให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้ประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรโดยส่งเสริมสนับสนุนโครงการดำเนินการอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ : ส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรและผู้ยากจนรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์การเกษตร อบรมปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้กลุ่มมีระบบบริหารจัดการกลุ่มให้เข้มแข็ง /กลางน้ำ : ดำเนินการจัดหาที่ดินและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (ถนน น้ำ ไฟฟ้า) ตามที่กลุ่มร้องขอความช่วยเหลือโดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสถาบัน ร่วมวางแผนร่วมกันในการจัดทำผังที่ดิน พื้นที่ส่วนกลางวางแผนการผลิตเกษตรปลอดภัยเกษตรอินทรีย์ และแผนการตลาดโดยใช้เทคโนโลยีทำการเกษตร และปลายน้ำ : ประสานงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์การเกษตรจัดหาสถานที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมา บจธ. ได้ดำเนินการกระจายการถือครองที่ดิน โดยการจัดหาและจัดสรรที่ดินให้แก่เกษตรกร แก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดิน ตลอดจนพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกรและผู้ยากจน


พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า บจธ. เตรียมจับมือภาคีเครือข่าย บูรณาการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานรัฐในพื้นที่เพื่อขอสนับสนุนสถานที่ เพื่อแลกเปลี่ยนและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตร โดยจะจัด “โครงการตลาดนัดแลกเปลี่ยนชุมชน” เพื่อเพิ่มช่องทางการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ขยายตลาดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ที่มีคุณภาพจากการผลิตของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการของ บจธ. และภาคีเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง ส่งต่อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชนโดยตรงไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง สร้างภาคีเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็งและการบูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในประเทศ เพิ่มรายจ่ายลดรายได้ให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่ผ่านมา บจธ. ได้ดำเนินการกระจายการถือครองที่ดิน โดยการจัดหาและจัดสรรที่ดินให้แก่เกษตรกร แก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดิน ตลอดจนพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกรและผู้ยากจน รวมเนื้อที่ทั้งหมด 4,702-2-24.9 ไร่ มีเกษตรกรที่ได้รับความช่วยเหลือไปแล้วจำนวน 1,371 ครัวเรือน

นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการ กล่าวว่า ในเบื้องต้น บจธ. คาดว่าจะจัดในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่นำร่องโดยมี3 วสช.สมาชิกโครงการฯ คือ 1.วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชาวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 2.วิสาหกิจชุมชนเชียงรายอุ่นไอรักษ์ ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และ3.วิสาหกิจชุมชน เกษตรกรรมยั่งยืนโยนกนคร (บ้านสันต้นเปา) ตำบลโยนก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และภาคีเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงนำผลผลิตทางการเกษตรเข้าร่วมจัดจำหน่ายในพื้นที่โครงการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจากความร่วมมือ ส่วนราชการจังหวัดและเอกชนในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เกษตรกร ได้นำผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรปลอดสาร หรือผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรี ที่ผลิตในพื้นที่ส่งต่อสุขภาพที่ดีให้แก่ชุมชนในพื้นที่ได้มีสุขภาพที่แข็งแรง ในภาวะวิกฤตโรคระบาด covid-19 ในปัจจุบัน และในพื้นที่ต่อไปคาดว่าจะจัดขึ้นในพื้นที่ของที่ว่าการจังหวัดนครราชสีมา โดยมีสมาชิกวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรฐานรากช่องโคพัฒนา ตำบลรังกาใหญ่อำเภอพิมายจังหวัดนครราชสีมา และภาคีเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่ง หากโครงการดังกล่าวได้รับผลตอบรับที่ดีจากประชาชน บจธ. พร้อมที่จะขยายไปสู่ทุกชุมชนที่เข้าร่วมโครงการของ บจธ. ทั่วประเทศ ซึ่ง ปัจจุบัน บจธ. มีวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการแล้ว 12 พื้นที่ โดยแต่ละพื้นที่ได้มีผลผลิตทางการเกษตรจำหน่ายแล้วในชุมชน ยกตัวอย่างเช่น วิสาหกิจชุมชนแก้วกล้า จังหวัดเพชรบุรี จัดตั้งกลุ่มน้ำพริกแกง น้ำพริก และผักปลอดสารเคมี จำหน่ายส่งให้ the basket สมาชิกชุมชนน้ำแดงพัฒนา ในพื้นที่ ต.คลองน้อย อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี มีการปลูกพืชผักสวนครัว เช่น ยอดเขรียง ลูกเนียง ถั่วฝักยาว ถั่วลิสง แตง งา ตามแนวทางเกษตรผสมสาน และปลอดสารพิษ ไว้เพื่อบริโภค และขาย รวมถึงเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น โดยแต่ละชุมชนมุ่งเน้นทำการเกษตรปลอดสารเคมีสร้างแหล่งอาหารปลอดภัยในพื้นที่ ต่อยอดไปสู่มาตรฐานการเป็นเกษตรอินทรีย์ในอนาคต.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]