ห่วง พ.ร.ก.กม.แพ่ง เอื้อนายทุน

รัฐสภา 27 พ.ค.-สภาประชุมนัดแรกถกพ.ร.ก.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ส.ส.มีทั้งหนุน-ค้าน หวั่นเป็นการเขียนเช็คเปล่า เอื้อนายทุน จี้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ “ชวน” เข้ม ไม่ให้ถอดหน้ากากอภิปราย ย้ำจำเป็นต้องประชุมปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกวันนี้ (27พ.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งต่อสมาชิกถึงมาตรการป้องกันโควิด -19 ที่รัฐสภาต้องทำตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ พร้อมขอให้เข้าใจว่าเป็นไปเพื่อการป้องกันการติดเชื้อให้มีประสิทธิภาพ แม้อาจไม่สะดวกบางเรื่อง พร้อมกำชับว่า ระหว่างการอภิปราย อย่าอยู่ใกล้คนอภิปราย ให้อยู่ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ส่วนความหวังดีของสมาชิกที่ต้องการให้เลื่อนประชุมนั้น ขอขอบคุณ แต่เท่าที่คุยส่วนตัวกับสมาชิก ส่วนใหญ่อยากให้ประชุม เพราะบางเรื่องมีเงื่อนเวลาตามที่กฎหมายกำหนด จึงจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ขณะที่ในช่วงประชุม 2 สัปดาห์นี้จะขอไม่ให้มีการหารือของสมาชิก” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว จากนั้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯประกาศพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่1 ปี 2564 และให้นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส. นครศรีธรรมราชปฏิญาณตนก่อนทำหน้าที่


จากนั้นที่ประชุมพิจารณาพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2564 ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นผู้เสนอ ซึ่งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงหลักการและเหตุผล ว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เสนอต่อครม. ว่า อัตราดอกเบี้ยในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้บังคับใช้มาเป็นเวลานานกว่า 95 ปี โดยไม่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพการณ์และสภาพเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 7.5 % ต่อปีเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ปัจจุบัน ที่มีอัตราเฉลี่ย 0.5% ต่อปีมาก ทำให้ลูกหนี้ได้รับความเดือดร้อนจากภาระดอกเบี้ย และทำให้เกิดการประวิงเวลาฟ้องคดีของเจ้าหนี้เพื่อหาประโยชน์จากความไม่เหมาะสมของอัตราดอกเบี้ยในกฎหมาย

นายอาคม กล่าวว่า เจ้าหนี้ได้กำหนดวิธีคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ในลักษณะเอาเปรียบและไม่เป็นธรรมกับเจ้าหนี้เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ในงวดใดเจ้าหนี้อาจคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดในงวดนั้นได้จากต้นเงินที่คงค้างทั้งหมด แทนที่จะคำนวณจากต้นเงินในงวดที่ถึงชำระแล้วเท่านั้น ซึ่งเมื่อลูกหนี้ผิดนัดหลายงวดติดต่อกัน จะทำให้ดอกเบี้ยผิดนัดจะสะสมเป็นจำนวนที่สูงมาก ทำให้ลูกหนี้มีหนี้สินเพิ่มขึ้นส่งผลต่อกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ขณะนี้ประเทศไทยประสบปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวนมาก ไม่สามารถชำระหนี้ได้ดังช่วงเวลาปกติ

“จากปัญหาดังกล่าวจึงจำเป็นต้องแก้ไขและเป็นกรณีฉุกเฉิน เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องตราพ.ร.ก.ฉบับนี้ โดยสาระสำคัญของพ.ร.ก.ฉบับนี้ 1.ได้แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งปรับอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้กำหนดไว้ก่อนหรือไม่ได้มีกฎหมายกำหนด ลดจากอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมสภาพเศรษฐกิจตามข้อเสนอของธนาคารแห่งประเทศไทย และกำหนดให้กระทรวงการคลังทบทวนได้ทุก 3 ปี 2.แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 224 เป็นการปรับปรุงดอกเบี้ยผิดนัด ปรับลดจากร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงนี้ เป็นอัตราที่กำหนดตามมาตรา 7 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ร้อยละ 3 ต่อปี บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ตรงเวลา” นายอาคม กล่าว


นายอาคม กล่าวว่า 3.เพิ่มมาตรา 224/1 โดยกำหนดฐานการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ เมื่อลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ในงวดใดงวดหนึ่ง เจ้าหนี้คำนวณดอกเบี้ยผิดนัดได้เฉพาะจากเงินต้นของงวดที่ลูกหนี้ผิดนัดแล้วเท่านั้น ซึ่งเจ้าหนี้จะคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นที่ค้างอยู่ทั้งหมดไม่ได้ และข้อตกลงใดที่ขัดกับหลักการนี้ ให้ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ และ 4.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดนี้ ให้ใช้กับการคิดดอกเบี้ย/การคิดดอกเบี้ยผิดนัด/การคิดดอกเบี้ยผิดนัดในงวดที่ถึงกำหนดเวลาชำระ ตั้งแต่วันที่พระราชกำหนดนี้ ใช้บังคับ (11 เม.ย. 2564) แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงการคิดดอกเบี้ยในระหว่างช่วงเวลาก่อนที่พระราชกำหนดนี้ใช้บังคับ

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ต้องขอชมเชยการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้รับความเป็นธรรมไม่ว่าจะเป็นการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งที่ไม่ได้กำหนดไว้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ย เงินฝาก เงินกู้ ปรับลดลงแล้ว แต่ต้องบอกว่าเป็นความเป็นธรรมที่มาล่าช้า ประชาชนต้องรอเกือบ 100 ปี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้บรรจุไว้ในสัญญาที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์ ออกมาตั้งแต่ปี 2468 โดยเฉพาะการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดที่ผิดนัดงวดเดียว แต่ถูกคิดดอกเบี้ยผิดนัดจากเงินต้นที่เหลือทั้งหมด ถือว่าเอารัดเอาเปรียบลูกหนี้ ต้องมีลูกหนี้แบกรับภาระที่ไม่เป็นธรรม ความเสียหายที่เกิดขึ้นมาก่อนใครจะรับผิดชอบ

ขณะที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเรียกร้องให้ประธานสภาฯ ส่งพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตีความว่า การให้อำนาจกระทรวงการคลัง เพื่อขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่ผ่านกระทรวงนั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 หรือไม่ ซึ่งกรณีที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังออกพระราชกฤษฎีกา ปรับเพิ่มดอกเบี้ยได้นั้นประชาชนได้รับผลกระทบและตนมองว่าอาจเป็นการช่วยเหลือนายทุน

“พ.ร.ก.ฉบับนี้เหมือนจะดี แต่ไม่ดี เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ เพราะการให้อำนาจกระทรวงการคลังพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ว่าจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ เป็นพระราชกฤษฎีกาทุก ๆ 3 ปีเท่ากับสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ตามอำเภอใจ เช่น ร้อยละ 7 เท่ากับเขียนเช็คเปล่าให้กระทรวงการคลังไปดำเนินการ ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ มีแต่โทษกับโทษ ทั้งกระบวนการออกกฎหมายของรัฐบาลชุดนี้ใช้วิธีปิดปากสภาฯ ไม่สามารถแก้ไขได้ในสภาฯเลย” นายธีรัจชัย กล่าว

นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า การที่บอกว่าประชาชนได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง สะท้อนสภาพการณ์ปัจจุบัน เอสเอ็มอีจะได้ประโยชน์ลดการฟ้องร้อง เพราะภาระดอกเบี้ยลดลง โดยเฉพาะดอกเบี้ยผิดนัด ซึ่งตนสนับสนุนการดำเนินการเรื่องนี้ แต่ไม่สะเด็ดน้ำเพราะยังมีปัญหาอยู่มาก ซึ่งประชาชนตั้งความหวังสูง เพราะเห็นข้อความที่ยื่นเข้าครม.ทำให้คนคาดหวังว่าดอกเบี้ยลงทันที เพราะมาตรการที่ใช้ออกเป็นพ.ร.ก.คือต้องรวดเร็ว เข้มข้น เป็นธรรมและทั่วถึง ถ้วนหน้า ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ดอกเบี้ยไม่ลดลงเลย ส่วนต่างดอกเบี้ย 3 เปอร์เซนต์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แนะนำ

“จากตัวเลขเมื่อ 2วันที่ผ่านมาพบว่าประเทศไทยมีส่วนต่างดอกเบี้ย 5.2 เปอร์เซนต์ และทุกประเทศในภูมิภาคนี้มีตั้งแต่ 1-4.6 เปอร์เซนต์ และในเอเชียแปซิฟิก เราแชมป์ แต่เป็นแชมป์ที่เป็นภาระแก่ประชาชน และค่าเฉลี่ยไม่สะท้อนปัญหาคนจน คนมีน้อยได้ดอกเบี้ยเงินฝากน้อย จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้สูง คนมีมากได้ดอกเบี้ยเงินฝากสูง จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้น้อยกว่า และเห็นว่าคนที่ได้ประโยชน์จากพ.ร.ก.ฉบับนี้มีน้อยมาก และแก้ปัญหาสินเชื่อในระบบได้เพียง 0.1 เปอร์เซนต์เท่านั้น แล้วอย่างนี้ถือว่าเร่งด่วนอย่างไร หากเป็นเช่นนั้นขอเสนอให้ออกพ.ร.ก.อีกฉบับหนึ่งได้ โดยให้ครอบคลุม” นายเกียรติ กล่าว

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ประชาชน แต่เอื้อให้กับนายทุน อีกทั้งยังส่งผลให้ธนาคารเกิดความสับสน การคิดอัตราดอกเบี้ยใหม่ให้กับลูกหนี้ และอาจจะนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาล ทำให้เกิดความวุ่นวายในอนาคต จึงเห็นว่ารัฐบาลควรออกพ.ร.ก.อีก 1 ฉบับเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมจากฉบับเดิมให้เกิดความความชัดเจน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชามติ กล่าวว่า รัฐบาลส่อเอาทุกข์ร้อนของประชาชนชิงออก พ.ร.ก.ฉบับนี้ที่ไม่สุจริต และว่า “ท่านรู้ปัญหาความทุกข์ยาก จึงไปแก้ แต่ท่านไม่กำหนดเรื่องนิติกรรมไว้ เรื่องนี้มาจากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งรู้สึกเจ็บปวดที่จะผลักดัน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสมาชิกอภิปรายกันอย่างกว้างขวางแล้ว นายอาคม ชี้แจงว่า ทุกเรื่องที่สมาชิกเสนอมา โดยเฉพาะเรื่องความครอบคุลม กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาในภาพรวมของรายละเอียดทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเปิดกว้างเรื่องการคิดดอกเบี้ย สิ่งที่กระทรวงให้ความสำคัญคือเน้นเรื่องความเป็นธรรม ดังนั้น ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณสมาชิกที่ร่วมกันเสนอข้อเสนอต่าง ๆ ให้นำไปพิจารณาต่อไป จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวด้วยคะแนน 403 ไม่เห็นชอบ 1 งดออกเสียง 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีส.ส.บางคนเช่น นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยได้ขอถอดหน้ากากระหว่างอภิปราย แต่นายชวน หลีกภัยไม่อนุญาต ซึ่งนายสมบัติ กล่าวว่า เข้าใจและยอมปฏิบัติตาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย