ห่วง พ.ร.ก.กม.แพ่ง เอื้อนายทุน

รัฐสภา 27 พ.ค.-สภาประชุมนัดแรกถกพ.ร.ก.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ส.ส.มีทั้งหนุน-ค้าน หวั่นเป็นการเขียนเช็คเปล่า เอื้อนายทุน จี้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ “ชวน” เข้ม ไม่ให้ถอดหน้ากากอภิปราย ย้ำจำเป็นต้องประชุมปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกวันนี้ (27พ.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งต่อสมาชิกถึงมาตรการป้องกันโควิด -19 ที่รัฐสภาต้องทำตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ พร้อมขอให้เข้าใจว่าเป็นไปเพื่อการป้องกันการติดเชื้อให้มีประสิทธิภาพ แม้อาจไม่สะดวกบางเรื่อง พร้อมกำชับว่า ระหว่างการอภิปราย อย่าอยู่ใกล้คนอภิปราย ให้อยู่ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ส่วนความหวังดีของสมาชิกที่ต้องการให้เลื่อนประชุมนั้น ขอขอบคุณ แต่เท่าที่คุยส่วนตัวกับสมาชิก ส่วนใหญ่อยากให้ประชุม เพราะบางเรื่องมีเงื่อนเวลาตามที่กฎหมายกำหนด จึงจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ขณะที่ในช่วงประชุม 2 สัปดาห์นี้จะขอไม่ให้มีการหารือของสมาชิก” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว จากนั้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯประกาศพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่1 ปี 2564 และให้นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส. นครศรีธรรมราชปฏิญาณตนก่อนทำหน้าที่


จากนั้นที่ประชุมพิจารณาพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2564 ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นผู้เสนอ ซึ่งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงหลักการและเหตุผล ว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เสนอต่อครม. ว่า อัตราดอกเบี้ยในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้บังคับใช้มาเป็นเวลานานกว่า 95 ปี โดยไม่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพการณ์และสภาพเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 7.5 % ต่อปีเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ปัจจุบัน ที่มีอัตราเฉลี่ย 0.5% ต่อปีมาก ทำให้ลูกหนี้ได้รับความเดือดร้อนจากภาระดอกเบี้ย และทำให้เกิดการประวิงเวลาฟ้องคดีของเจ้าหนี้เพื่อหาประโยชน์จากความไม่เหมาะสมของอัตราดอกเบี้ยในกฎหมาย

นายอาคม กล่าวว่า เจ้าหนี้ได้กำหนดวิธีคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ในลักษณะเอาเปรียบและไม่เป็นธรรมกับเจ้าหนี้เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ในงวดใดเจ้าหนี้อาจคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดในงวดนั้นได้จากต้นเงินที่คงค้างทั้งหมด แทนที่จะคำนวณจากต้นเงินในงวดที่ถึงชำระแล้วเท่านั้น ซึ่งเมื่อลูกหนี้ผิดนัดหลายงวดติดต่อกัน จะทำให้ดอกเบี้ยผิดนัดจะสะสมเป็นจำนวนที่สูงมาก ทำให้ลูกหนี้มีหนี้สินเพิ่มขึ้นส่งผลต่อกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ขณะนี้ประเทศไทยประสบปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวนมาก ไม่สามารถชำระหนี้ได้ดังช่วงเวลาปกติ

“จากปัญหาดังกล่าวจึงจำเป็นต้องแก้ไขและเป็นกรณีฉุกเฉิน เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องตราพ.ร.ก.ฉบับนี้ โดยสาระสำคัญของพ.ร.ก.ฉบับนี้ 1.ได้แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งปรับอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้กำหนดไว้ก่อนหรือไม่ได้มีกฎหมายกำหนด ลดจากอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมสภาพเศรษฐกิจตามข้อเสนอของธนาคารแห่งประเทศไทย และกำหนดให้กระทรวงการคลังทบทวนได้ทุก 3 ปี 2.แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 224 เป็นการปรับปรุงดอกเบี้ยผิดนัด ปรับลดจากร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงนี้ เป็นอัตราที่กำหนดตามมาตรา 7 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ร้อยละ 3 ต่อปี บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ตรงเวลา” นายอาคม กล่าว


นายอาคม กล่าวว่า 3.เพิ่มมาตรา 224/1 โดยกำหนดฐานการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ เมื่อลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ในงวดใดงวดหนึ่ง เจ้าหนี้คำนวณดอกเบี้ยผิดนัดได้เฉพาะจากเงินต้นของงวดที่ลูกหนี้ผิดนัดแล้วเท่านั้น ซึ่งเจ้าหนี้จะคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นที่ค้างอยู่ทั้งหมดไม่ได้ และข้อตกลงใดที่ขัดกับหลักการนี้ ให้ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ และ 4.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดนี้ ให้ใช้กับการคิดดอกเบี้ย/การคิดดอกเบี้ยผิดนัด/การคิดดอกเบี้ยผิดนัดในงวดที่ถึงกำหนดเวลาชำระ ตั้งแต่วันที่พระราชกำหนดนี้ ใช้บังคับ (11 เม.ย. 2564) แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงการคิดดอกเบี้ยในระหว่างช่วงเวลาก่อนที่พระราชกำหนดนี้ใช้บังคับ

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ต้องขอชมเชยการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้รับความเป็นธรรมไม่ว่าจะเป็นการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งที่ไม่ได้กำหนดไว้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ย เงินฝาก เงินกู้ ปรับลดลงแล้ว แต่ต้องบอกว่าเป็นความเป็นธรรมที่มาล่าช้า ประชาชนต้องรอเกือบ 100 ปี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้บรรจุไว้ในสัญญาที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์ ออกมาตั้งแต่ปี 2468 โดยเฉพาะการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดที่ผิดนัดงวดเดียว แต่ถูกคิดดอกเบี้ยผิดนัดจากเงินต้นที่เหลือทั้งหมด ถือว่าเอารัดเอาเปรียบลูกหนี้ ต้องมีลูกหนี้แบกรับภาระที่ไม่เป็นธรรม ความเสียหายที่เกิดขึ้นมาก่อนใครจะรับผิดชอบ

ขณะที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเรียกร้องให้ประธานสภาฯ ส่งพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตีความว่า การให้อำนาจกระทรวงการคลัง เพื่อขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่ผ่านกระทรวงนั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 หรือไม่ ซึ่งกรณีที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังออกพระราชกฤษฎีกา ปรับเพิ่มดอกเบี้ยได้นั้นประชาชนได้รับผลกระทบและตนมองว่าอาจเป็นการช่วยเหลือนายทุน

“พ.ร.ก.ฉบับนี้เหมือนจะดี แต่ไม่ดี เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ เพราะการให้อำนาจกระทรวงการคลังพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ว่าจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ เป็นพระราชกฤษฎีกาทุก ๆ 3 ปีเท่ากับสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ตามอำเภอใจ เช่น ร้อยละ 7 เท่ากับเขียนเช็คเปล่าให้กระทรวงการคลังไปดำเนินการ ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ มีแต่โทษกับโทษ ทั้งกระบวนการออกกฎหมายของรัฐบาลชุดนี้ใช้วิธีปิดปากสภาฯ ไม่สามารถแก้ไขได้ในสภาฯเลย” นายธีรัจชัย กล่าว

นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า การที่บอกว่าประชาชนได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง สะท้อนสภาพการณ์ปัจจุบัน เอสเอ็มอีจะได้ประโยชน์ลดการฟ้องร้อง เพราะภาระดอกเบี้ยลดลง โดยเฉพาะดอกเบี้ยผิดนัด ซึ่งตนสนับสนุนการดำเนินการเรื่องนี้ แต่ไม่สะเด็ดน้ำเพราะยังมีปัญหาอยู่มาก ซึ่งประชาชนตั้งความหวังสูง เพราะเห็นข้อความที่ยื่นเข้าครม.ทำให้คนคาดหวังว่าดอกเบี้ยลงทันที เพราะมาตรการที่ใช้ออกเป็นพ.ร.ก.คือต้องรวดเร็ว เข้มข้น เป็นธรรมและทั่วถึง ถ้วนหน้า ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ดอกเบี้ยไม่ลดลงเลย ส่วนต่างดอกเบี้ย 3 เปอร์เซนต์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แนะนำ

“จากตัวเลขเมื่อ 2วันที่ผ่านมาพบว่าประเทศไทยมีส่วนต่างดอกเบี้ย 5.2 เปอร์เซนต์ และทุกประเทศในภูมิภาคนี้มีตั้งแต่ 1-4.6 เปอร์เซนต์ และในเอเชียแปซิฟิก เราแชมป์ แต่เป็นแชมป์ที่เป็นภาระแก่ประชาชน และค่าเฉลี่ยไม่สะท้อนปัญหาคนจน คนมีน้อยได้ดอกเบี้ยเงินฝากน้อย จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้สูง คนมีมากได้ดอกเบี้ยเงินฝากสูง จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้น้อยกว่า และเห็นว่าคนที่ได้ประโยชน์จากพ.ร.ก.ฉบับนี้มีน้อยมาก และแก้ปัญหาสินเชื่อในระบบได้เพียง 0.1 เปอร์เซนต์เท่านั้น แล้วอย่างนี้ถือว่าเร่งด่วนอย่างไร หากเป็นเช่นนั้นขอเสนอให้ออกพ.ร.ก.อีกฉบับหนึ่งได้ โดยให้ครอบคลุม” นายเกียรติ กล่าว

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ประชาชน แต่เอื้อให้กับนายทุน อีกทั้งยังส่งผลให้ธนาคารเกิดความสับสน การคิดอัตราดอกเบี้ยใหม่ให้กับลูกหนี้ และอาจจะนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาล ทำให้เกิดความวุ่นวายในอนาคต จึงเห็นว่ารัฐบาลควรออกพ.ร.ก.อีก 1 ฉบับเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมจากฉบับเดิมให้เกิดความความชัดเจน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชามติ กล่าวว่า รัฐบาลส่อเอาทุกข์ร้อนของประชาชนชิงออก พ.ร.ก.ฉบับนี้ที่ไม่สุจริต และว่า “ท่านรู้ปัญหาความทุกข์ยาก จึงไปแก้ แต่ท่านไม่กำหนดเรื่องนิติกรรมไว้ เรื่องนี้มาจากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งรู้สึกเจ็บปวดที่จะผลักดัน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสมาชิกอภิปรายกันอย่างกว้างขวางแล้ว นายอาคม ชี้แจงว่า ทุกเรื่องที่สมาชิกเสนอมา โดยเฉพาะเรื่องความครอบคุลม กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาในภาพรวมของรายละเอียดทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเปิดกว้างเรื่องการคิดดอกเบี้ย สิ่งที่กระทรวงให้ความสำคัญคือเน้นเรื่องความเป็นธรรม ดังนั้น ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณสมาชิกที่ร่วมกันเสนอข้อเสนอต่าง ๆ ให้นำไปพิจารณาต่อไป จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวด้วยคะแนน 403 ไม่เห็นชอบ 1 งดออกเสียง 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีส.ส.บางคนเช่น นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยได้ขอถอดหน้ากากระหว่างอภิปราย แต่นายชวน หลีกภัยไม่อนุญาต ซึ่งนายสมบัติ กล่าวว่า เข้าใจและยอมปฏิบัติตาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

นายกฯ​ นั่งหัวโต๊ะประชุม 7 ผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 20 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรี​ นั่งหัวโต๊ะประชุม 7 ผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา ลั่น​แม้รัฐบาลหวังหลีกเลี่ยงการปะทะ​ แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัย ทุกภาคส่วนต้องพร้อม ย้ำผู้บริหารมหาดไทย​ แม้มีการเปลี่ยนแปลง​ แต่อยากให้ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเข้มแข็งไม่มีการเปลี่ยน บอก สัญญารัฐบาลไม่ทิ้งกระทรวงใด​ ขณะที่ช่วงบ่ายเตรียมบินไป จ.อุบลราชธานี พบแม่ทัพภาคที่ 2 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี​ เป็นประธานการประชุมติดตามดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย​ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ตราด จันทบุรี สระแก้ว โดยมี นางสาวธีรรัตน์​ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง และนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมการประชุม โดยนายกรัฐมนตรี​ […]

ปชป. ออกแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลต่อ ขอทบทวนสัมพันธ์กัมพูชา

พรรคประชาธิปัตย์ 20 มิ.ย.- “ประชาธิปัตย์” ออกแถลงการณ์ยืนยันดำรงสถานะพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมขอให้ทบทวนท่าทีความสัมพันธ์กับกัมพูชา พรรคประชาธิปัตย์ออกแถลงการณ์ระบุว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือและพิจารณาร่วมกัน เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 มิถุนายน 2568 คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ มีความเห็นเป็นฉันทามติร่วมกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตะวันออก-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ภาคอีสานตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย