ห่วง พ.ร.ก.กม.แพ่ง เอื้อนายทุน

รัฐสภา 27 พ.ค.-สภาประชุมนัดแรกถกพ.ร.ก.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ส.ส.มีทั้งหนุน-ค้าน หวั่นเป็นการเขียนเช็คเปล่า เอื้อนายทุน จี้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ “ชวน” เข้ม ไม่ให้ถอดหน้ากากอภิปราย ย้ำจำเป็นต้องประชุมปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกวันนี้ (27พ.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งต่อสมาชิกถึงมาตรการป้องกันโควิด -19 ที่รัฐสภาต้องทำตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ พร้อมขอให้เข้าใจว่าเป็นไปเพื่อการป้องกันการติดเชื้อให้มีประสิทธิภาพ แม้อาจไม่สะดวกบางเรื่อง พร้อมกำชับว่า ระหว่างการอภิปราย อย่าอยู่ใกล้คนอภิปราย ให้อยู่ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ส่วนความหวังดีของสมาชิกที่ต้องการให้เลื่อนประชุมนั้น ขอขอบคุณ แต่เท่าที่คุยส่วนตัวกับสมาชิก ส่วนใหญ่อยากให้ประชุม เพราะบางเรื่องมีเงื่อนเวลาตามที่กฎหมายกำหนด จึงจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ขณะที่ในช่วงประชุม 2 สัปดาห์นี้จะขอไม่ให้มีการหารือของสมาชิก” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว จากนั้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯประกาศพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่1 ปี 2564 และให้นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส. นครศรีธรรมราชปฏิญาณตนก่อนทำหน้าที่


จากนั้นที่ประชุมพิจารณาพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2564 ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นผู้เสนอ ซึ่งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงหลักการและเหตุผล ว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เสนอต่อครม. ว่า อัตราดอกเบี้ยในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้บังคับใช้มาเป็นเวลานานกว่า 95 ปี โดยไม่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพการณ์และสภาพเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 7.5 % ต่อปีเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ปัจจุบัน ที่มีอัตราเฉลี่ย 0.5% ต่อปีมาก ทำให้ลูกหนี้ได้รับความเดือดร้อนจากภาระดอกเบี้ย และทำให้เกิดการประวิงเวลาฟ้องคดีของเจ้าหนี้เพื่อหาประโยชน์จากความไม่เหมาะสมของอัตราดอกเบี้ยในกฎหมาย

นายอาคม กล่าวว่า เจ้าหนี้ได้กำหนดวิธีคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ในลักษณะเอาเปรียบและไม่เป็นธรรมกับเจ้าหนี้เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ในงวดใดเจ้าหนี้อาจคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดในงวดนั้นได้จากต้นเงินที่คงค้างทั้งหมด แทนที่จะคำนวณจากต้นเงินในงวดที่ถึงชำระแล้วเท่านั้น ซึ่งเมื่อลูกหนี้ผิดนัดหลายงวดติดต่อกัน จะทำให้ดอกเบี้ยผิดนัดจะสะสมเป็นจำนวนที่สูงมาก ทำให้ลูกหนี้มีหนี้สินเพิ่มขึ้นส่งผลต่อกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ขณะนี้ประเทศไทยประสบปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวนมาก ไม่สามารถชำระหนี้ได้ดังช่วงเวลาปกติ

“จากปัญหาดังกล่าวจึงจำเป็นต้องแก้ไขและเป็นกรณีฉุกเฉิน เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องตราพ.ร.ก.ฉบับนี้ โดยสาระสำคัญของพ.ร.ก.ฉบับนี้ 1.ได้แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งปรับอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้กำหนดไว้ก่อนหรือไม่ได้มีกฎหมายกำหนด ลดจากอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมสภาพเศรษฐกิจตามข้อเสนอของธนาคารแห่งประเทศไทย และกำหนดให้กระทรวงการคลังทบทวนได้ทุก 3 ปี 2.แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 224 เป็นการปรับปรุงดอกเบี้ยผิดนัด ปรับลดจากร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงนี้ เป็นอัตราที่กำหนดตามมาตรา 7 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ร้อยละ 3 ต่อปี บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ตรงเวลา” นายอาคม กล่าว


นายอาคม กล่าวว่า 3.เพิ่มมาตรา 224/1 โดยกำหนดฐานการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ เมื่อลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ในงวดใดงวดหนึ่ง เจ้าหนี้คำนวณดอกเบี้ยผิดนัดได้เฉพาะจากเงินต้นของงวดที่ลูกหนี้ผิดนัดแล้วเท่านั้น ซึ่งเจ้าหนี้จะคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นที่ค้างอยู่ทั้งหมดไม่ได้ และข้อตกลงใดที่ขัดกับหลักการนี้ ให้ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ และ 4.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดนี้ ให้ใช้กับการคิดดอกเบี้ย/การคิดดอกเบี้ยผิดนัด/การคิดดอกเบี้ยผิดนัดในงวดที่ถึงกำหนดเวลาชำระ ตั้งแต่วันที่พระราชกำหนดนี้ ใช้บังคับ (11 เม.ย. 2564) แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงการคิดดอกเบี้ยในระหว่างช่วงเวลาก่อนที่พระราชกำหนดนี้ใช้บังคับ

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ต้องขอชมเชยการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้รับความเป็นธรรมไม่ว่าจะเป็นการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งที่ไม่ได้กำหนดไว้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ย เงินฝาก เงินกู้ ปรับลดลงแล้ว แต่ต้องบอกว่าเป็นความเป็นธรรมที่มาล่าช้า ประชาชนต้องรอเกือบ 100 ปี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้บรรจุไว้ในสัญญาที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์ ออกมาตั้งแต่ปี 2468 โดยเฉพาะการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดที่ผิดนัดงวดเดียว แต่ถูกคิดดอกเบี้ยผิดนัดจากเงินต้นที่เหลือทั้งหมด ถือว่าเอารัดเอาเปรียบลูกหนี้ ต้องมีลูกหนี้แบกรับภาระที่ไม่เป็นธรรม ความเสียหายที่เกิดขึ้นมาก่อนใครจะรับผิดชอบ

ขณะที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเรียกร้องให้ประธานสภาฯ ส่งพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตีความว่า การให้อำนาจกระทรวงการคลัง เพื่อขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่ผ่านกระทรวงนั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 หรือไม่ ซึ่งกรณีที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังออกพระราชกฤษฎีกา ปรับเพิ่มดอกเบี้ยได้นั้นประชาชนได้รับผลกระทบและตนมองว่าอาจเป็นการช่วยเหลือนายทุน

“พ.ร.ก.ฉบับนี้เหมือนจะดี แต่ไม่ดี เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ เพราะการให้อำนาจกระทรวงการคลังพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ว่าจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ เป็นพระราชกฤษฎีกาทุก ๆ 3 ปีเท่ากับสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ตามอำเภอใจ เช่น ร้อยละ 7 เท่ากับเขียนเช็คเปล่าให้กระทรวงการคลังไปดำเนินการ ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ มีแต่โทษกับโทษ ทั้งกระบวนการออกกฎหมายของรัฐบาลชุดนี้ใช้วิธีปิดปากสภาฯ ไม่สามารถแก้ไขได้ในสภาฯเลย” นายธีรัจชัย กล่าว

นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า การที่บอกว่าประชาชนได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง สะท้อนสภาพการณ์ปัจจุบัน เอสเอ็มอีจะได้ประโยชน์ลดการฟ้องร้อง เพราะภาระดอกเบี้ยลดลง โดยเฉพาะดอกเบี้ยผิดนัด ซึ่งตนสนับสนุนการดำเนินการเรื่องนี้ แต่ไม่สะเด็ดน้ำเพราะยังมีปัญหาอยู่มาก ซึ่งประชาชนตั้งความหวังสูง เพราะเห็นข้อความที่ยื่นเข้าครม.ทำให้คนคาดหวังว่าดอกเบี้ยลงทันที เพราะมาตรการที่ใช้ออกเป็นพ.ร.ก.คือต้องรวดเร็ว เข้มข้น เป็นธรรมและทั่วถึง ถ้วนหน้า ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ดอกเบี้ยไม่ลดลงเลย ส่วนต่างดอกเบี้ย 3 เปอร์เซนต์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แนะนำ

“จากตัวเลขเมื่อ 2วันที่ผ่านมาพบว่าประเทศไทยมีส่วนต่างดอกเบี้ย 5.2 เปอร์เซนต์ และทุกประเทศในภูมิภาคนี้มีตั้งแต่ 1-4.6 เปอร์เซนต์ และในเอเชียแปซิฟิก เราแชมป์ แต่เป็นแชมป์ที่เป็นภาระแก่ประชาชน และค่าเฉลี่ยไม่สะท้อนปัญหาคนจน คนมีน้อยได้ดอกเบี้ยเงินฝากน้อย จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้สูง คนมีมากได้ดอกเบี้ยเงินฝากสูง จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้น้อยกว่า และเห็นว่าคนที่ได้ประโยชน์จากพ.ร.ก.ฉบับนี้มีน้อยมาก และแก้ปัญหาสินเชื่อในระบบได้เพียง 0.1 เปอร์เซนต์เท่านั้น แล้วอย่างนี้ถือว่าเร่งด่วนอย่างไร หากเป็นเช่นนั้นขอเสนอให้ออกพ.ร.ก.อีกฉบับหนึ่งได้ โดยให้ครอบคลุม” นายเกียรติ กล่าว

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ประชาชน แต่เอื้อให้กับนายทุน อีกทั้งยังส่งผลให้ธนาคารเกิดความสับสน การคิดอัตราดอกเบี้ยใหม่ให้กับลูกหนี้ และอาจจะนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาล ทำให้เกิดความวุ่นวายในอนาคต จึงเห็นว่ารัฐบาลควรออกพ.ร.ก.อีก 1 ฉบับเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมจากฉบับเดิมให้เกิดความความชัดเจน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชามติ กล่าวว่า รัฐบาลส่อเอาทุกข์ร้อนของประชาชนชิงออก พ.ร.ก.ฉบับนี้ที่ไม่สุจริต และว่า “ท่านรู้ปัญหาความทุกข์ยาก จึงไปแก้ แต่ท่านไม่กำหนดเรื่องนิติกรรมไว้ เรื่องนี้มาจากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งรู้สึกเจ็บปวดที่จะผลักดัน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสมาชิกอภิปรายกันอย่างกว้างขวางแล้ว นายอาคม ชี้แจงว่า ทุกเรื่องที่สมาชิกเสนอมา โดยเฉพาะเรื่องความครอบคุลม กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาในภาพรวมของรายละเอียดทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเปิดกว้างเรื่องการคิดดอกเบี้ย สิ่งที่กระทรวงให้ความสำคัญคือเน้นเรื่องความเป็นธรรม ดังนั้น ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณสมาชิกที่ร่วมกันเสนอข้อเสนอต่าง ๆ ให้นำไปพิจารณาต่อไป จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวด้วยคะแนน 403 ไม่เห็นชอบ 1 งดออกเสียง 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีส.ส.บางคนเช่น นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยได้ขอถอดหน้ากากระหว่างอภิปราย แต่นายชวน หลีกภัยไม่อนุญาต ซึ่งนายสมบัติ กล่าวว่า เข้าใจและยอมปฏิบัติตาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]

กต.เตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล

กต. 11 ก.ย.- สอท.เนปาล ประเมินสถานการณ์ร่วม กต. เตรียมมาตรการช่วยคนไทยใกล้ชิด กำชับคนไทยอยู่ในสถานที่ปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกาฐมาณฑุ สาธารณรัฐเนปาล ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในเนปาล ตามที่ทางการเนปาลได้ประกาศเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่งผลให้ทางการเนปาลบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรุงกาฐมาณฑุ ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ครอบคลุมพื้นที่ภายในถนนวงแหวน (Ring Road) รวมถึงบริเวณสะพาน Balkumari, Koteshwar, Sinamangal, Gaushala, Chabahil, Narayan Gopal Chowk, Gongabu, Balaju, Swayambhu, Kalanki, Balkhu และสะพาน Bagmati เมืองลลิตปูร์ ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 09.00 น. […]