สุดป่วน ยื้อตั้งรองปธ.สภาฯ

ที่รัฐสภา 24 ก.ค.- สภาฯ สุดป่วน ยื้อตั้งรองปธ.สภาฯ ด้าน สส.ฝ่ายค้าน แย่งกันขานชื่อ ขณะที่ สส.ศรีสะเกษ “เพื่อไทย” “นุชนารถ” ลั่น ยิงกันแล้วที่บ้านดิฉัน ด้าน “หมอภูมินทร์” โวย เสียเวลา สภาถกเรื่องไร้สาระ ชี้ ประชาชนชายแดนหลายล้านเดือดร้อน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภ ผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เมื่อเข้าสู่วาระ นายวัชรพล ขาวขำ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติขอเปลี่ยนแปลงระเบียบวาระ โดยให้นำเรื่องอื่นๆ คือการลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่สอง ขึ้นมาก่อนการถามกระทู้สด ทั้งนี้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะประธานวิปฝ่ายค้านเห็นแย้งและเสนอให้เป็นไปตามระเบียบวาระ

ทั้งนี้นายวัน มูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตามข้อบังคับเมื่อมีคนเห็นเป็นอย่างอื่นต้องมีการลงมติตัดสิน และได้เรียกสส.เข้าห้องประชุมเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม อย่างไรก็ดีหลังจากที่ใช้เวลาตรวจสอบองค์ประชุมได้ระยะหนึ่ง นายวันมูหะมัดนอร์ ได้แจ้งองค์ประชุมคือ 252 คน และมีผู้แสดงตนด้วยวาจารวม 3 คน ถือว่ามีผู้แสดงตน 255 คน และเกินกึ่งหนึ่งขององค์ประชุม จากนั้นได้ให้ลงคะแนนเพื่อตัดสินว่าจะเลื่อนระเบียบวาระหรือไม่ ซึ่งใช้เวลาให้สส.ออกเสียง เพียง 2 นาที ก่อนจะเปิดการออกเสียง ซึ่งทำให้ สส.ฝ่ายค้านหลายคนลงคะแนนไม่ทัน และใช้ขอให้บันทึกการลงคะแนนเอาไว้ในบันทึกการประชุม อย่างไรก็ดี นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เสนอให้ลงมติใหม่ เพราะมีสส.หลายคนเพิ่งเดินเข้ามาในที่ประชุม และมองว่าทำได้เพราะนายวันมูหะมัดนอร์ ไม่ได้ขานคะแนน


นายวันมูหะมัดนอร์ ได้วินิจฉัยว่าจะให้ลงคะแนนใหม่ โดยเริ่มจากการนับองค์ประชุม แต่ถูกทักท้วงจากวิปรัฐบาล ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ได้ใช้จังหวะขานคะแนน ว่า มีผู้เห็นด้วยกับการเปลี่ยนระเบียบวาระ 246 เสียง ไม่เห็นด้วย 47 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง ทำให้บรรยากาศในห้องประชุมเป็นไปอย่างวุ่นวาย เพราะสส.ฝ่ายค้านได้ขอบันทึกการออกเสียงในประเด็นดังกล่าวต่อที่ประชุมจำนวนมาก ซึ่งสร้างความไม่พอใจกับ สส.ฝ่ายรัฐบาล เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องเสียเวลาและเป็นแทคติกที่ถ่วงเวลาของสภาฯ และขณะนี้มีประเด็นปัญหาความไม่สงบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่รอการพิจารณาและต้องการเร่งการประชุมให้แล้วเสร็จเพื่อกลับพื้นที่ไปดูแลประชาชน

โดยนางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย กล่าวอย่างดุเดือดว่า “มันมีการยิงกันเกิดขึ้นที่ศรีสะเกษบ้านดิฉันค่ะ มีวิธีไหนมั่งที่จะให้มันเร็วที่สุดเพื่อสส.ศรีสะเกษ เขาจะได้ลงไปดูชาวบ้านเขามานั่งเถียงกันอยู่ตรงนี้”

ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนเข้าใจและมีการหารือกันตั้งแต่ตอนเช้า 3-4 รายแล้ว บอกว่ามีการยิงกันตั้งแต่เวลา 09.00 น. ขอทุกคนสงบ อย่าใช้อารมณ์ เพราะการดำเนินการประชุม ต้องฟังทุกฝ่าย


ขณะที่ นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ ลุกเสริมว่า ถ้าแสดงตนเสร็จแล้ว ก็ให้ดำเนินการต่อ มันจะได้เสร็จเร็ว พี่น้องตามแนวชายแดนหลายล้านคนกำลังเดือดร้อนจากเหตุปะทะไทย กัมพูชา แต่สภาของเรากลับมาใช้กับเรื่องไร้สาระแบบนี้ ไม่ใช่มาลุกขึ้นแบบนี้ เสียเวลาของสภา ตนขอประท้วงท่านประธานให้ดำเนินการประชุมให้ดี

จากนั้น นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย หารือต่อว่า เดี๋ยวนี้มีการมีรูปแบบใหม่ของการทำให้ที่ประชุมเสียเวลา เมื่อลงมติแล้วก็ขานชื่อ ถ้าท่านไม่ลงมติเป็น 100 คน แล้วขอให้บันทึกอีก 100 คน มันก็กินเวลา กรรมาธิการยังมีงานต้องทำอยู่บนห้อง ข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆมารออยู่มากมาย เราทำอย่างไรให้กระชับกว่านี้ดีหรือไม่ ท่านที่ประสงค์จะลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานกรุณาเข้าคิวเดินเรียงที่โต๊ะประธาน และไปลงชื่อไว้ตรงนั้นก็ได้ เพื่อจะได้บันทึกไว้เป็นหลักฐานการประชุมจะได้ดำเนินการต่อไปไม่เสียเวลา

ทำให้ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า “ขออยู่ในความสงบ อย่าใช้อารมณ์ ทั้งนี้ผม เข้าใจ คนที่ไม่ได้ลงคะแนนตอนแรก ต้องการมีบันทึก ต้องขานชื่อ เสียเวลา ที่ผ่านมาเคยปฏิบัติมา แต่คราวนี้มีมาก อยากให้จบเรื่องนี้ ประชาชนรู้ว่าใครทำอะไร”

จากนั้นนายปกรณ์วุฒิ ได้ลุกขึ้นโต้แย้งว่าขอให้เริ่มกระบวนการลงมติใหม่ แต่ถูกนายวัชรพล แย้งว่าไม่มีข้อบังคับใดในการประชุมสภาฯ รับรอง โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ได้ตัดบทและเข้าสู่กระบวนการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่สอง ทันที .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย