นายกฯ เตรียมตั้งศูนย์โควิด-19 กรุงเทพฯ – ปริมณฑล

กรุงเทพฯ 4 พ.ค.-โฆษก ศบค. เผยนายกฯ เตรียมตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพฯและปริมณฑล คัดกรองเชิงรุก นำผู้ป่วยแยกจากชุมชนและครอบครัว ลดการแพร่เชื้อ หลังยอดติดเชื้อเพิ่มรายวัน

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,763 คน แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 1,750 คน จากต่างประเทศ 13 คน คือ อินเดีย 1 คน ไนจีเรีย 1 คน อียิปต์ 1 คน อิตาลี 1 คน ปากีสถาน 1 คน ซูดาน 1 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม อยู่ที่ 72,788 คน หายป่วยแล้ว 42,472 คน วันนี้เสียชีวิต 27 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 303 ราย โดยการระบาดระลอกใหม่ ตั้งแต่ 1 เม.ย. – 4 พ.ค. 64 ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 43,925 คน เป็นผู้ป่วยจากระบบ 37,103 คน ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 6,580 คน จากต่างประเทศ 242 คน หายป่วยแล้ว 15,048 คน ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 30,011 คน แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 21,453คน โรงพยาบาลสนาม 8,558 คน อาการหนัก 1,009 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 311 คน


สำหรับผู้เสียชีวิต ทั้ง 27 ราย เป็นชาย 21 ราย และหญิง 6 ราย โดยค่าเฉลียของอายุ 66 ปี ระหว่าง 25 – 92 ปี แบ่งเป็น กทม. 8 ราย นนทบุรี 5 ราย ลำพูน สมุทรปราการ 2 ราย ส่วนชลบุรี อุบลราชธานี ปทุมธานี บครปฐม บุรีรัมย์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กำแพงเพชร ชัยนาท น่าน จังหวัดละ 1 ราย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค คือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง ไทรอยด์ ติดเตียง อ้วน มะเร็ง โรคปอดเรื้อรัง ไตเรื้อรัง ส่วนปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อ คือ สมาชิกในครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมวาน พนักงานสถานบันเทิง ตลาด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยอดผู้ติดเชื้อใน กทม.ยังสูงเป็นอันดับ 1 ยอดสะสม อยู่ที่ 14,520 คน อันดับ 2 คือ เชียงใหม่ สะสม 3,714 คน อันดับ 3 ชลบุรี สะสม 2,853 คน อันดับ 4 สมุทรปราการ สะสม 2,368 คน อันดับ 5 นนทบุรี 2,309คน อันดับ 6 สมุทรสาคร สะสม 1,114 คน อันดับ 7 ประจวบคีรีขันธ์ สะสม 1,105 คน อันดับ 8 ปทุมธานี สะสม 979 คน อันดับ 9 สุราษฏร์ธานี สะสม 857 คน อันดับ 10 สงขลา สะสม 724 คน


ถือว่าแนวโน้มค่อนข้างทรงตัว แต่ยังไว้ใจไม่ได้ ซึ่งต่างจังหวัดค่อนข้างควบคุมได้ ยกเว้น กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยผลการประชุม EOC และ ศบค.ชุดเล็ก วันนี้ พบว่า กรุงเทพฯ ปริมณฑล มีจำนวนผู้ติดเชื้อ มากกว่า 73 จังหวัดรวมกัน จึงจัดทำยุทธศาสตร์การทำงานและโฟกัสลงไปที่เขตในกทม. ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยการตรวจคัดกรองเชิงรุกและแยกผู้ป่วยออกจากครอบครัว และเข้าสู่กระบวนการรักษา อย่างเช่นวันนี้ คือ บ่อนไก่เขตคลองเตย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วน ทั้งกรุงเทพมหานคร สาธารณสุข ในการคัดกรอง หลังพบติดเชื้อใน 6 ชุมชนแออัด คือ ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ 61 คน ชุมชนเคหะบ่อนไก่ 14 คน ชุมชนโปโล 10 คน ชุมชนพระเจน 8 คน ชุมชนร่วมฤดี 2 คน ชุมชนกุหลาบแดง 1 คน ซึ่งพบว่ามีรายงานมาตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน พอเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ยอดยิ่งพุ่งขึ้นมา ไม่เฉพาะพบผู้ติดเชื้อในชุมชน แต่ยังพบมีการแพร่เชื้อไปยังคอนโด บ้าน หลังจากมีการค้นหาเชิงรุกมากขึ้น รวม 162 ราย ตั้งเป้าตรวจเชิงรุกให้ได้วันละ 1,000 คน โดยวันนี้ได้เข้าไปตรวจที่ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ และอีกชุมชน คือ ชุมชนสี่แยกมหานาค เขตดุสิต โดยมีการรายงานในที่ประชุมว่าพบผู้ติดเชื้อถึง 80 ราย กระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ เช่นชุมชนวัดญวน – คลองลำปัก 73 คน ชุมชนหลังบ้านมนังคศิลา 5 คน และชุมชนริมทางรถไฟสายแปดริ้วอีก 2 คน ซึ่งทั้ง 3 ชุมชนนี้เป็นชุมชนแออัด พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลังสงกรานต์เช่นกัน พบ 3 ต้นตอในการระบาด คือ 1.คลัสเตอร์ ที่ไปผับแถวรัชดา เมื่อวันที่ 7-8 เมษายน และมาพบเชื้อเมื่อช่วง 14-15 เมษายน และคลัสเตอร์ที่ 2 คือไปแถวพระราม 2 และพบเชื้อในช่วง 16 เมษายน เป็นพนักงานบริษัท และคลัสเตอร์ 3 คือ ไปเที่ยวแพเมืองกาญ กับกลุ่มเพื่อนในช่วงสงกรานต์

ขณะที่ผู้ติดเชื้อจังหวัดสมุทรปราการตัวเลขวันนี้ ซึ่งติดเชื้อเป็นกลุ่มก็ในโรงงานแถวอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จำนวน 160 คน ต้นต่อจากพนักงานชาวเมียนมา มีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน และแพร่เชื้อให้กับเพื่อนร่วมห้องชาวเมียนมา 2 คน และค่อยๆ ขยายวงกว้างไปสู่เพื่อนๆ พนักงานคนอื่นๆ มีการรายงานต่อที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กวันนี้ ขณะนี้โรงงานดังกล่าวได้หยุดทำการชั่วคราวแล้วตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการรายงาน ปริมาณยาฟาวิพิราเวียร์ คงเหลืออีกกว่า 1.6 ล้านเม็ด และจะสั่งมาจากญี่ปุ่นอีกกว่า 2 ล้านเม็ดภายในวันที่ 12 พ.ค. ส่วนวัคซีนมีการจัดสรร ไปแล้ว กว่า 1.9 ล้านโดส ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 3 พฤษภาคม ฉีดไปแล้ว 1,498,617 โดส

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมนัดพิเศษที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวานที่ผ่านมา ในฐานะ ผอ.ศบค. นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมาหารือในสถานการณ์เร่งด่วน โดยสรุปมี 2 ประเด็นใหญ่ คือ จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ 1 ชุดในการบูรณาการงานโควิด- 19 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งถือว่ามีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เพิ่มความเข้มข้น คือ ตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการศูนย์ และ 2. ตั้งศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ระดับเขต โดยมี ผอ. เขตเป็นผู้อำนวยการศูนย์ ส่วนสถานการณ์โลก ยอดติดเชื้อรวม 154,178,244 คน อันดับ1 คือ สหรัฐ 33,230,561 คน อันดับ 2 คือ อินเดีย 20,275,543 คน อันดับ 3 บราซิล อันดับ 4 ฝรั่งเศส และอันดับ 5 ตุรกี ส่วนไทยอยู่ที่อันดับ 99 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 13 ก.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน […]

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย