นายกฯ เตรียมตั้งศูนย์โควิด-19 กรุงเทพฯ – ปริมณฑล

กรุงเทพฯ 4 พ.ค.-โฆษก ศบค. เผยนายกฯ เตรียมตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพฯและปริมณฑล คัดกรองเชิงรุก นำผู้ป่วยแยกจากชุมชนและครอบครัว ลดการแพร่เชื้อ หลังยอดติดเชื้อเพิ่มรายวัน

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,763 คน แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 1,750 คน จากต่างประเทศ 13 คน คือ อินเดีย 1 คน ไนจีเรีย 1 คน อียิปต์ 1 คน อิตาลี 1 คน ปากีสถาน 1 คน ซูดาน 1 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม อยู่ที่ 72,788 คน หายป่วยแล้ว 42,472 คน วันนี้เสียชีวิต 27 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 303 ราย โดยการระบาดระลอกใหม่ ตั้งแต่ 1 เม.ย. – 4 พ.ค. 64 ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 43,925 คน เป็นผู้ป่วยจากระบบ 37,103 คน ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 6,580 คน จากต่างประเทศ 242 คน หายป่วยแล้ว 15,048 คน ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 30,011 คน แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 21,453คน โรงพยาบาลสนาม 8,558 คน อาการหนัก 1,009 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 311 คน


สำหรับผู้เสียชีวิต ทั้ง 27 ราย เป็นชาย 21 ราย และหญิง 6 ราย โดยค่าเฉลียของอายุ 66 ปี ระหว่าง 25 – 92 ปี แบ่งเป็น กทม. 8 ราย นนทบุรี 5 ราย ลำพูน สมุทรปราการ 2 ราย ส่วนชลบุรี อุบลราชธานี ปทุมธานี บครปฐม บุรีรัมย์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กำแพงเพชร ชัยนาท น่าน จังหวัดละ 1 ราย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค คือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง ไทรอยด์ ติดเตียง อ้วน มะเร็ง โรคปอดเรื้อรัง ไตเรื้อรัง ส่วนปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อ คือ สมาชิกในครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมวาน พนักงานสถานบันเทิง ตลาด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยอดผู้ติดเชื้อใน กทม.ยังสูงเป็นอันดับ 1 ยอดสะสม อยู่ที่ 14,520 คน อันดับ 2 คือ เชียงใหม่ สะสม 3,714 คน อันดับ 3 ชลบุรี สะสม 2,853 คน อันดับ 4 สมุทรปราการ สะสม 2,368 คน อันดับ 5 นนทบุรี 2,309คน อันดับ 6 สมุทรสาคร สะสม 1,114 คน อันดับ 7 ประจวบคีรีขันธ์ สะสม 1,105 คน อันดับ 8 ปทุมธานี สะสม 979 คน อันดับ 9 สุราษฏร์ธานี สะสม 857 คน อันดับ 10 สงขลา สะสม 724 คน


ถือว่าแนวโน้มค่อนข้างทรงตัว แต่ยังไว้ใจไม่ได้ ซึ่งต่างจังหวัดค่อนข้างควบคุมได้ ยกเว้น กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยผลการประชุม EOC และ ศบค.ชุดเล็ก วันนี้ พบว่า กรุงเทพฯ ปริมณฑล มีจำนวนผู้ติดเชื้อ มากกว่า 73 จังหวัดรวมกัน จึงจัดทำยุทธศาสตร์การทำงานและโฟกัสลงไปที่เขตในกทม. ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยการตรวจคัดกรองเชิงรุกและแยกผู้ป่วยออกจากครอบครัว และเข้าสู่กระบวนการรักษา อย่างเช่นวันนี้ คือ บ่อนไก่เขตคลองเตย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วน ทั้งกรุงเทพมหานคร สาธารณสุข ในการคัดกรอง หลังพบติดเชื้อใน 6 ชุมชนแออัด คือ ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ 61 คน ชุมชนเคหะบ่อนไก่ 14 คน ชุมชนโปโล 10 คน ชุมชนพระเจน 8 คน ชุมชนร่วมฤดี 2 คน ชุมชนกุหลาบแดง 1 คน ซึ่งพบว่ามีรายงานมาตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน พอเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ยอดยิ่งพุ่งขึ้นมา ไม่เฉพาะพบผู้ติดเชื้อในชุมชน แต่ยังพบมีการแพร่เชื้อไปยังคอนโด บ้าน หลังจากมีการค้นหาเชิงรุกมากขึ้น รวม 162 ราย ตั้งเป้าตรวจเชิงรุกให้ได้วันละ 1,000 คน โดยวันนี้ได้เข้าไปตรวจที่ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ และอีกชุมชน คือ ชุมชนสี่แยกมหานาค เขตดุสิต โดยมีการรายงานในที่ประชุมว่าพบผู้ติดเชื้อถึง 80 ราย กระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ เช่นชุมชนวัดญวน – คลองลำปัก 73 คน ชุมชนหลังบ้านมนังคศิลา 5 คน และชุมชนริมทางรถไฟสายแปดริ้วอีก 2 คน ซึ่งทั้ง 3 ชุมชนนี้เป็นชุมชนแออัด พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลังสงกรานต์เช่นกัน พบ 3 ต้นตอในการระบาด คือ 1.คลัสเตอร์ ที่ไปผับแถวรัชดา เมื่อวันที่ 7-8 เมษายน และมาพบเชื้อเมื่อช่วง 14-15 เมษายน และคลัสเตอร์ที่ 2 คือไปแถวพระราม 2 และพบเชื้อในช่วง 16 เมษายน เป็นพนักงานบริษัท และคลัสเตอร์ 3 คือ ไปเที่ยวแพเมืองกาญ กับกลุ่มเพื่อนในช่วงสงกรานต์

ขณะที่ผู้ติดเชื้อจังหวัดสมุทรปราการตัวเลขวันนี้ ซึ่งติดเชื้อเป็นกลุ่มก็ในโรงงานแถวอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จำนวน 160 คน ต้นต่อจากพนักงานชาวเมียนมา มีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน และแพร่เชื้อให้กับเพื่อนร่วมห้องชาวเมียนมา 2 คน และค่อยๆ ขยายวงกว้างไปสู่เพื่อนๆ พนักงานคนอื่นๆ มีการรายงานต่อที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กวันนี้ ขณะนี้โรงงานดังกล่าวได้หยุดทำการชั่วคราวแล้วตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการรายงาน ปริมาณยาฟาวิพิราเวียร์ คงเหลืออีกกว่า 1.6 ล้านเม็ด และจะสั่งมาจากญี่ปุ่นอีกกว่า 2 ล้านเม็ดภายในวันที่ 12 พ.ค. ส่วนวัคซีนมีการจัดสรร ไปแล้ว กว่า 1.9 ล้านโดส ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 3 พฤษภาคม ฉีดไปแล้ว 1,498,617 โดส

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมนัดพิเศษที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวานที่ผ่านมา ในฐานะ ผอ.ศบค. นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมาหารือในสถานการณ์เร่งด่วน โดยสรุปมี 2 ประเด็นใหญ่ คือ จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ 1 ชุดในการบูรณาการงานโควิด- 19 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งถือว่ามีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เพิ่มความเข้มข้น คือ ตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการศูนย์ และ 2. ตั้งศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ระดับเขต โดยมี ผอ. เขตเป็นผู้อำนวยการศูนย์ ส่วนสถานการณ์โลก ยอดติดเชื้อรวม 154,178,244 คน อันดับ1 คือ สหรัฐ 33,230,561 คน อันดับ 2 คือ อินเดีย 20,275,543 คน อันดับ 3 บราซิล อันดับ 4 ฝรั่งเศส และอันดับ 5 ตุรกี ส่วนไทยอยู่ที่อันดับ 99 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]

ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ อาจต้องใช้สิทธิป้องกันตนเอง

12 ส.ค.- ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพล ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า […]

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก บอกสื่อ “คิดถึงนะคะ”

สนามหลวง 12 ส.ค.- “แพทองธาร” ยิ้ม ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน บอกสื่อฯ “คิดถึงนะคะ” ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค.2568 ณ ท้องสนามหลวง ทันทีที่พบผู้สื่อข่าว นางสาวแพทองธาร หันมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า “คิดถึงนะ” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามเรื่องกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน คดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยิ้มและไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายจะอยู่ รวมถึงขอให้ยืนยันว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถทันที.-315 -สำนักข่าวไทย