พช. นำผ้าลายขอเจ้าฟ้าฯ มาจำหน่ายครม.

ทำเนียบรัฐบาล 30 มี.ค.-นายกรัฐมนตรีปลื้มปีติพระมหากรุณาธิคุณ ให้พช. นำผ้าลายขอเจ้าฟ้าฯ มาจำหน่ายให้ครม. หนุนเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้ให้ชุมชน


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนและนางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายนิทรรศการส่งเสริมสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทยเพื่อประชาสัมพันธ์และจัดจำหน่ายผ้าไทย “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” จากโครงการประกวดผ้าลายพระราชทานภายใต้พระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระดำริพระราชทานแก่วงการผ้าไทยว่า “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” คือ ความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปหัตถกรรมไทย เพื่อให้รายได้กลับสู่ชุมชน ส่งเสริมผ้าไทยเป็นที่นิยมสู่สากล สามารถใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัยและทุกโอกาส และได้พระราชทานแบบลายผ้า“ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” แก่พี่น้องประชาชน เพื่อเป็นลายต้นแบบในการรังสรรค์ถักทอเรื่องราวไปตามแต่ละภูมิภาค ให้กลุ่มทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค สามารถนำไปใช้ทอผ้าและพัฒนาในรูปแบบต่าง ๆ ได้


“เป็นการส่งเสริมอาชีพ พร้อมเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์แก่ผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง เป็นการสร้างรายได้สู่ชุมชนสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด และยืนยันจะให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และนางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวขอบพระคุณนายกรัฐมนตรีที่สนับสนุนส่งเสริมผ้าไทยอย่างจริงจัง ทั้งการเป็นผู้นำสวมใส่ผ้าไทย การให้ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ มาเผยแพร่ต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันนี้ และมีมติครม. เมื่อ 9 มิถุนายน 2563 รณรงค์ให้คนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ยอดการจำหน่ายผ้าไทยในเดือนมิถุนายน – ธันวาคม 2563 เป็นเงิน 8,369,792,260 บาท ทำให้กลุ่ม OTOP ผ้าไทยมีรายได้จากการจำหน่ายผ้าไทยในช่วงเดือนมกราคม -มีนาคม 2564 เพิ่มขึ้นมากถึง 283,721,770 บาท

“นับเป็นความโชคดีของชาวไทยที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานแบบลายผ้า “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” แก่พสกนิกรชาวไทยผ่านกรมการพัฒนาชุมชน เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ในงาน OTOP CITY 2020 ทำให้ช่วยกระตุ้นยอดขายผ้าไทยเฉพาะลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณวรีฯ ยอดการจำหน่ายเดือนมิถุนายน – ธันวาคม 2563 เป็นเงิน 8,369,792,260 บาท และนับแต่กลางเดือนมกราคม – 29 มีนาคม 2564 สูงถึง 22,937,000 บาท ยอดการจำหน่ายผ้าลายพระราชทาน “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ของกลุ่มอาชีพจากทั่วทุกภูมิภาคที่นำมาจัดนิทรรศการ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา มียอดจำหน่าย จำนวน 147,750 บาท” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว


นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ส่วนยอดการจำหน่ายวันนี้( 30 มี.ค.) กลุ่มที่ 1 กลุ่มแม่บ้านสวาย จ.สุรินทร์ มียอดจำหน่าย 171,500 บาท กลุ่มที่ 2 เทรดเดอร์จังหวัดนครราชสีมา ยอดจำหน่าย 304,000 บาท กลุ่มที่ 3 ศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านอำเภอนาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 72,500 บาท และกลุ่มที่ 4 ชัยบาติก จ.ภูเก็ต จำนวน 18,200 บาท รวมยอดการจำหน่ายทั้งสิ้น จำนวน 713,950 บาทและมีแนวโน้มจะมียอดจำหน่ายสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามปริมาณผ้าที่ผลิตได้เพิ่มมากขึ้น

“กรมการพัฒนาชุมชนร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดประกวดผ้าลายพระราชทาน “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเรื่องการอนุรักษ์ภูมิปัญญาของไทย และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการออกแบบเครื่องแต่งกายสิ่งทอ และการอนุรักษ์ผ้าไทย ประชาสัมพันธ์ผ้าไทยแต่ละประเภทให้เป็นที่รู้จัก และการประกวดลายผ้าพระราชทานลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ นี้ถือเป็นการ kick off ในการส่งเสริม อนุรักษ์ รักษา สืบสาน และต่อยอด โดยการส่งเสริมศิลปินคนรุ่นใหม่ มุ่งเน้นการทำงานถักทอผ้า ต้องไม่ลดขั้นตอนการปฏิบัติงานตามกติกาที่วางไว้ สุนทรียศาสตร์ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาที่ส่งต่อบรรพบุรุษดำเนินอย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนารูปแบบความต้องการในยุคปัจจุบัน เพื่อยกระดับ คุณภาพลายผ้าไทย เส้นใย และสร้างศิลปินคนรุ่นใหม่ที่ทำงานเรื่องผ้า โดยไม่จำกัดอายุ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า การประกวดครั้งนี้ แบ่งเป็น 15 ประเภท ตามเทคนิคเอกลักษณ์ของผ้าประจำถิ่นของจังหวัดนั้น ๆ แบ่งเป็น 2 ระดับ ระดับภูมิภาค ในช่วงเดือน พฤษภาคม – มิถุนายน 2564 และระดับประเทศ ในช่วงเดือน กรกฎาคม 2564 ระดับภาค กำหนดพื้นที่ดำเนินการในระดับภาค 4 ภาค 4 จุด ประกอบด้วย ภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2564 ภาคกลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 25-27 พฤษภาคม 2564 ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายน 2564 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2564 โดยนำผ้าที่ได้รับการเข้ารอบในระดับภูมิภาคสู่การประกวดในระดับประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพของผ้าไทยต่อไป

“มีการประกวดผ้าลายพระราชทานแยกตามชนิด คัดเลือก The Best of Best รางวัลเดียวจาก 15 ประเภท คัดเลือก The Best โดยนำที่ 1 ของ 15 ประเภท มาเรียงลำดับที่ 1 – 3 และคัดเลือก Top 10 ของ 15 ประเภท เป็นรางวัลชมเชย อย่างไรก็ตาม ในการประกวดรอบสุดท้ายในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม พระองค์ท่านจะทรงเสด็จเป็นองค์ประธานตัดสินในระดับประเทศด้วยพระองค์เอง พร้อมทั้งรางวัลพิเศษ the best of the best ในการนำผ้าที่ชนะเลิศไปตัดเย็บเป็นฉลองพระองค์ ใส่ไปงาน OTOP Midyear 2021 ในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ประกวดที่มีความมุ่งมั่นในการที่จะสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดินต่อไป” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” และแต่งกายด้วยชุดผ้าไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่อัตลักษณ์ผ้าไทยให้ดำรงคงอยู่ เป็นการสนับสนุนการสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในชุมชน รวมถึงปลุกกระแสเทรนด์ผ้าไทยให้ทันสมัยสู่สากล พร้อมดึงรายได้สู่ชุมชนอันเป็นกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองได้ ทำให้เกิดการหมุนเวียนในห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจระดับประเทศต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับการประกวดฯ ทางเว็บไซต์กรมการพัฒนาชุมชน www.cdd.go.th หรือทาง Facebook กรมการพัฒนาชุมชน หรือติดต่อเบอร์ 02 -141- 6179 รวมถึงสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]