สำนักข่าว UDD 30 มี.ค.-“ณัฐวุฒิ” เปิดใจครั้งแรกหลังได้รับอิสรภาพ ยืนยันจุดยืนเดิมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย พร้อมอยู่เคียงข้างคนรุ่นใหม่ ไม่มีแนวคิดฟื้นคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหว เผยยังไม่ได้คุย “จตุพร” ที่นัดชุมนุม 4 เม.ย.นี้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. แถลงข่าวเปิดใจการคืนสู่อิสรภาพครั้งแรก หลังถอดกำไล EM ครบกำหนดวันต้องโทษวานนี้ (29 มี.ค.) โดยขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์และกรมคุมประพฤติ ตลอดช่วงที่ถูกคุมประพฤติก็ปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด ไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมือง ส่วนตัวขณะนี้ยังมีคดีความที่ต้องต่อสู้ ซึ่งเป็นผลพวงจากการเคลื่อนไหวในปี 2552 และ 2553 อีกหลายคดี แม้สถานะของตนยังเป็นผู้ต้องคำพิพากษาศาลฎีกา ทำให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี แต่ในฐานะประชาชน ยังยืนยันจุดยืนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง คือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
“ผมไม่รู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางสายนี้ และมีคดีความมากมาย ติดคุกมาแล้ว 3 ครั้ง และไม่แน่ใจจะมีอีกกี่ครั้ง ความเจ็บปวดผมรับได้ ภาระที่ต้องแบกรับไม่หวั่นไหว และขอย้ำจุดยืน คืออำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ภายใต้หลักการ คนเราเท่าเทียมกัน” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประกาศนัดชุมนุมในวันที่ 4 เม.ย.นี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่ายังไม่ได้พูดคุยแนวทางการเมืองกับนายจตุพร แต่เห็นว่านายจตุพร และหลายคนที่ออกมาเคลื่อนไหวก็มีศักยภาพอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในฐานะที่เป็นอดีตแกนนำนปช. ยังไม่มีแนวคิดเคลื่อนไหวนำมวลชนคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมใหญ่ หรือชุมนุมร่วมกับกลุ่มอื่นๆในขณะนี้
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาว่า ตนไม่อยู่ในสถานะที่จะประเมินการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิตและอิสรภาพของคนรุ่นใหม่ได้ เพราะเมื่อแกนนำตัดสินใจที่จะกล้าออกมาต่อสู้ ทุกคนก็ถือว่าอยู่ในสถานะเดียวกันกับตน มีเกียรติและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน แต่ขอแสดงตัวที่จะยืนเคียงข้างนักศึกษา และประชาชนที่กำลังต่อสู้อยู่ ซึ่งที่ผ่านมาได้พบกับแกนนำที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ก็ได้พูดคุยแสดงความห่วงใย และเอาใจช่วย เชื่อว่าการต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ เป็นพลังบริสุทธิ์ที่ต้องการเห็นประเทศมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้ถูกล้างสมองหรือชักจูงโดยใคร
“อนาคตของประเทศจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าอนาคตของชาติยังอยู่ในห้องขัง สิ่งที่เกิดขึ้นที่คนรุ่นใหม่ออกมาต่อสู้ เป็นผลพวง และสิ่งที่คนรุ่นเราต้องรับผิดชอบ ถ้าประเทศดี เด็กเหล่านี้ต้องอยู่ในห้องเรียนไม่ใช่ห้องขัง ดังนั้นต้องเอาเขาออกจากห้องขัง โดยคนที่เกี่ยวข้องจะต้องมานั่งหารือ ทำความเข้าใจ พูดคุยถึงปัญหาที่แท้จริง ด้วยบรรยากาศของความปราถนาดีต่อกันและกัน” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะขึ้นเวทีปราศรัยนำมวลชนเคลื่อนไหวกับคนรุ่นใหม่ ว่าเมื่อพิจารณาจากแกนนำที่มีอยู่ปัจจุบัน ตนถือว่ามีความอาวุโสกว่า ทำให้ต้องตระหนักถึงความรอบคอบรัดกุม อีกทั้งแกนนำที่เคลื่อนไหวอยู่ได้ทำงานร่วมกันมา มีวันเวลา ประวัติศาสตร์ร่วมกัน ขณะนี้จึงไม่ใช่วันที่ตนจะมาประกาศว่าจะมาเป็นแกนนำต่อสู้ แทนคนที่ต่อสู้อยู่ในปัจจุบัน แต่ในอนาคตหากสถานการณ์เกิดความจำเป็นก็เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันอีกครั้ง
สำหรับบรรยากาศในการแถลงข่างครั้งนี้ มีอดีตแกนนำ นปช. ทั้งนางธิดา ถาวรเศรษฐ นายแพทย์เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ รวมถึงมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก