แนะกำหนดนโยบายขจัดใช้ความรุนแรงทางเพศกับเด็ก

กสม.11 มี.ค.-กสม.แนะครม.กำหนดนโยบายขจัดความรุนแรงทางเพศต่อเด็กในภาพรวม กำชับหน่วยเกี่ยวข้องทำงานให้เชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาล ตรวจสอบการนำเสนอข่าวความรุนแรงทางเพศต่อเด็กของสื่อเคร่งครัด


นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยกรณีครูกระทำความรุนแรงทางเพศต่อเด็ก ซึ่งล่าสุดมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ว่า สถานการณ์ความรุนแรงทางเพศต่อเด็กที่เกิดจากการกระทำของครูหรือบุคลากรทางการศึกษายังปรากฏให้เห็นเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่นานมานี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้หยิบยกสถานการณ์ปัญหาในลักษณะเดียวกันหลายกรณีขึ้นตรวจสอบและรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคสถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคมด้านสิทธิเด็ก และหน่วยงานของรัฐ และจัดทำรายงานข้อเสนอแนะมาตรการต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

“ปัญหาดังกล่าวนอกจากจะก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านร่างกาย สภาพจิตใจ และอนาคตของเด็กที่เป็นผู้เสียหายแล้ว ยังเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว สถานศึกษาและชุมชน ความรู้สึกของประชาชนในวงกว้าง การป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นระบบจึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรร่วมกันดำเนินการ เพื่อให้เด็กซึ่งเป็นอนาคตของชาติได้รับการคุ้มครองจากความรุนแรงในทุกรูปแบบ” นางประกายรัตน์ กล่าว


นายประกายรัตน์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) ควรกำหนดนโยบายด้านการขจัดความรุนแรงทางเพศต่อเด็กในภาพรวม และกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการสอดประสานและเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาล โดยสนับสนุนงบประมาณด้านบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้มีจำนวนเพียงพอ โดยเฉพาะเพิ่มจำนวนพนักงานสอบสวนหญิงหรือพนักงานสอบสวนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเด็ก นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์หรือบุคลากรสหวิชาชีพอื่น ๆ

“กระทรวงศึกษาธิการควรกำหนดให้สถานศึกษาแต่ละแห่งประสานความร่วมมือกับเด็กนักเรียน ตัวแทนผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงานของรัฐในพื้นที่เพื่อจัดทำแผนจัดการความเสี่ยงด้านความรุนแรงทางเพศต่อเด็ก และแนวปฏิบัติสำหรับเด็กในการป้องกันตนเองจากความรุนแรงทางเพศ ส่วนการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ควรกลั่นกรองและตรวจสอบการประพฤติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพครูหรือบุคลากรทางการศึกษาอย่างเคร่งครัด รวมทั้งควรกำหนดให้พัฒนาความรู้ความเข้าใจเรื่องสิทธิเด็ก และบทบาทการคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียนแก่บุคลากรทางการศึกษา ซึ่งจะเป็นการป้องกันยับยั้งการกระทำความรุนแรงทางเพศหรือความรุนแรงรูปแบบอื่นต่อเด็ก ควรพัฒนาช่องทางการร้องเรียนแจ้งเบาะแสของศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษา ซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ รวมทั้งช่องทางให้เด็กสามารถขอรับคำปรึกษา” นางประกายรัตน์ กล่าว

นางประกายรัตน์ กล่าวว่า คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ซึ่งมีอำนาจและหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ควรพิจารณาจัดทำคู่มือหรือแนวทางการปฏิบัติงาน ที่เป็นมาตรฐานเฉพาะเกี่ยวกับการประสานความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมและการคุ้มครองเยียวยาเด็กในคดีความรุนแรงทางเพศ เพื่อให้การดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีกระบวนการที่ชัดเจน ไม่ซ้ำซ้อน และมีระบบการบูรณาการข้อมูลกัน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ควรจัดทำคู่มือหรือแนวทางการปฏิบัติงาน เกี่ยวกับกระบวนการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจ วิธีการฟื้นฟูเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมทั้งกิจกรรมที่มุ่งเสริมสร้างพลังอำนาจแก่เด็กที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงทางเพศ


“กระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ควรศึกษาและแก้ไขปรับปรุงแนวทางการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนแก่เด็กที่เป็นผู้เสียหายในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ โดยควรกำหนดแนวทางการใช้ดุลพินิจสำหรับกรณีที่ต้องพิจารณาว่าผู้เสียหายมีพฤติกรรมยินยอมหรือไม่นั้น คำนึงถึงวุฒิภาวะและอำนาจการตัดสินใจของเด็ก ตลอดจนความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างผู้กระทำความผิดกับเด็กด้วย” นางประกายรัตน์ กล่าว

นางประกายรัตน์ กล่าวว่า ขอเสนอคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตรวจสอบการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศต่อเด็กของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนอย่างเคร่งครัด รวมทั้งควรประสานความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับกระบวนการลบประวัติข้อมูลข่าวสารที่กระทบต่อความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง และครอบครัว ตามหลักสิทธิที่จะถูกลืม ขณะที่องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ควรกำกับดูแลกันเองและส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนปฏิบัติงานโดยระมัดระวังและเพิ่มความตระหนักในเรื่องผลกระทบต่อเด็กและคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ตลอดจนการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้อง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

นายกฯ ลงพื้นที่ยะลา พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ปลื้มต้อนรับอบอุ่น

นายกฯ ขึ้น ฮ. ลงยะลา ทักทายเป็นภาษามลายู พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ปลื้มต้อนรับอบอุ่น บอกมีตรงไหนเดือดร้อน รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ลั่นอยู่ศาสนาใด-เชื้อชาติใด คนไทยด้วยกัน ขอรักสามัคคีกัน

ข่าวแนะนำ

สถานบันเทิงครบวงจร

“จิรายุ” ย้ำจำเป็นต้องทำ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

“จิรายุ” กางไทม์ไลน์ร่างกฎหมาย Entertainment Complex ถ้าใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ย้ำจำเป็นต้องทำ เพื่อควบคุมธุรกิจใต้ดิน​ ค้ามนุษย์ ไม่ให้เงินทองไหลออกนอกประเทศ ประเมินนักท่องเที่ยวปีนี้อาจแตะ 38 ล้านคน หลังลดลงช่วงโควิด

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนตะวันออก และใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนอง อ่าวไทยตอนล่าง คลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ระทึก! ฝรั่งคลั่งจี้ภรรยา สกัดจับได้แล้ว

ระทึกกลางถนน พลเมืองดีพบเหตุชายต่างชาติคลั่ง ใช้ปืนจี้ภรรยาคนไทย ขับรถจาก อ.หลังสวน มุ่งหน้าไปทางชุมพร ในรถมีเด็ก 2 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดจับได้แล้ว

นายกฯ คิกออฟ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง

นายกฯ คิกออฟ เปิดโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์ หวังยกระดับคุณภาพชีวิต มีบ้านใกล้ที่ทำงาน ลดความเหนื่อยล้า มีแรงช่วยพัฒนาประเทศ เผยหลังเปิดจองพบประชาชนกว่า 12 ล้านคน เข้าจองสิทธิ์ในเว็บไซต์จนเว็บล่ม ขณะที่ชาวบ้านมารอเข้าคิวที่สถานีกลางบางซื่อ คึกคักตั้งแต่ตี 5