กสม.มอบรางวัล 7 องค์กร-บุคคลมีผลงานดีเด่นด้านสิทธิฯ ปี 63

กรุงเทพฯ 23 ก.พ. – กสม.มอบรางวัล 7 องค์กร-บุคคลที่มีผลงานดีเด่นด้านสิทธิฯ ประจำปี 63 “ประกายรัตน์” ชี้สิทธิมนุษยชนเหมือนอากาศที่มองไม่เห็น สัมผัสไม่รู้สึก แต่หากขาดจะรับรู้ถึงการคุกคาม ความไม่มั่นคงปลอดภัยในชีวิต วอนสังคมให้ความสำคัญหวงแหนสิทธิตัวเองและเคารพสิทธิผู้อื่น จี้เร่งแก้กฎหมายสิทธิฯ เพื่อไทยได้คืนสถานะ A


วันนี้ (23 ก.พ.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จัดงานวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคม ประจำปี 2563 โดยนางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “เพราะชีวิต คือ สิทธิมนุษยชน” ว่า กสม.จัดงานวันสิทธิมนุษยชนขึ้นทุกปี เพื่อร่วมแสดงพลังแห่งภราดรภาพในการระลึกถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลทุกคนที่จะไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติ เพศสภาพ ภาษา ศาสนา สถานะทางเศรษฐกิจ การเมือง หรือความเห็นอื่นใด ซึ่งถือเป็นหัวใจของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ตลอดเวลาเกือบ 6 ปีที่ กสม. ชุดที่ 3 ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และดำเนินการสะสางคำร้องไปมากกว่า 2,000 เรื่องนั้น เราพบกรณีมากมายที่ยืนยันว่า “สิทธิมนุษยชน” เป็นเหมือนอากาศที่มองไม่เห็น สัมผัสไม่รู้สึก แต่หากเมื่อใดที่ชีวิตขาดซึ่งสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคแล้ว เราก็จะรับรู้ถึงการคุกคาม การขาดความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิต อย่างไรก็ตาม บางสิทธิอาจมีการปะทะแย้งกัน ซึ่ง กสม.ต้องชั่งน้ำหนักในการให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การให้ข้อเสนอแนะให้กำหนดสารเคมี “พาราควอต” เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย 2535 มาตรา 18 โดยห้ามมิให้มีการผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครอง ซึ่งแม้การใช้พาราควอตในภาคการเกษตรจะเป็นเสรีภาพในการประกอบอาชีพตามรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 40 แต่มาตรา 55 ก็บัญญัติให้รัฐต้องดูแลและส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี สอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ที่กำหนดให้รัฐภาคีรับรองสิทธิของทุกคนที่จะมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตตามมาตรฐานสูงสุดเท่าที่เป็นได้ ข้อเสนอแนะของ กสม.ในเรื่องพาราควอต ได้รับการสนองตอบที่ดีจากผู้ที่เกี่ยวข้อง

ประธาน กสม. ยังได้กล่าวถึงการเข้ารับการประเมินเพื่อขอเลื่อนสถานะจาก B เป็น A กับคณะอนุกรรมการประเมินสถานะ (Sub-Committee on Accreditation : SCA) ภายใต้กรอบความร่วมมือของเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (GANHRI) ว่า หลังการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.63 SCA ได้แจ้งมติเลื่อนการพิจารณาการประเมินสถานะของ กสม.ไทยออกไป 18 เดือน แม้ว่า กสม.จะมีผลงานในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเป็นที่ประจักษ์ แต่การให้คืนสถานะ A ยังไม่อาจทำได้ด้วยข้อกังวลใจ 2 เรื่อง คือ หน้าที่และอำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 247 (4) ที่กำหนดให้ กสม. ต้องชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องโดยไม่ชักช้า ในกรณีที่มีการรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม ซึ่งไม่เคยปรากฏว่ามีสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติใดที่กฎหมายกำหนดให้มีหน้าที่ในลักษณะเสมือนการแก้ต่างแทนรัฐดังกล่าว นำไปสู่ข้อกังวลในเรื่องความเป็นอิสระที่แท้จริงของ กสม. แม้ว่า กสม.จะยืนยันว่า ภายใต้การทำหน้าที่นี้ไม่อาจถูกแทรกแซงจากบุคคลหรือหน่วยงานใดได้ และประเด็นเกี่ยวกับบทบาทของ กสม.ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งกฎหมายเดิมเคยกำหนดให้ กสม.ทำหน้าที่นี้ได้ แต่กฎหมายปัจจุบันได้ตัดหน้าที่นี้ออก ทำให้ กสม.ไม่อาจช่วยเหลือเยียวยาผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนได้อย่างรวดเร็ว แต่น่ายินดีที่เร็วๆ นี้ วุฒิสภามีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ให้แก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 โดยเพิ่มหน้าที่และอำนาจให้ กสม.สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยประนีประนอมข้อพิพาทด้านสิทธิมนุษยชนได้ ซึ่งหลัง กสม.ชุดปัจจุบันพ้นหน้าที่ไปแล้ว ขอฝากไปยังฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และภาคประชาชน ให้ช่วยกันผลักดันให้มีการแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายที่ทำให้สังคมเข้าใจคลาดเคลื่อนในความเป็นอิสระของ กสม.โดยเร็ว เพื่อให้ กสม.ได้กลับคืนสู่สถานะ A อันจะเป็นศักดิ์ศรีและความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตาชาวโลก


ทั้งนี้ กสม.ยังได้มอบรางวัลให้บุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่น ด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2563 เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติที่ทำหน้าที่ในการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จำนวน 7 รางวัล ประกอบด้วย

  1. สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง หน่วยงานในสังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ที่นำมิติสิทธิมนุษยชนของเด็กและเยาวชน มาบูรณาการการทำงานในการป้องกัน ดูแล แก้ไขและฟื้นฟูเด็กและเยาวชน ภายใต้กระบวนการยุติธรรม ให้มีโอกาสปรับพฤติกรรม และเพื่อเพิ่มประสิทธิผลด้านการลดการกระทำผิดซ้ำ
  2. โครงการสี่หมอชายแดนตาก ซึ่งเป็นความร่วมมือของโรงพยาบาลอุ้มผาง โรงพยาบาลแม่ระมาด โรงพยาบาลท่าสองยาง และโรงพยาบาลพบพระ เพื่อให้บริการสาธารณสุขแก่ทุกคนในพื้นที่ โดยเฉพาะสิทธิในสุขภาวะของคนชายแดนที่เปราะบาง คนด้อยโอกาส ภายใต้หลักคิด “Health for All” การให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิด้านบริการสาธารณสุขอย่างเท่าเทียม และไม่ควรมีผู้ใดถูกทิ้งไว้ข้างหลัง รักษาและเยียวยาตั้งแต่เกิดจนตาย
  3. ผศ.ชิดชนก ราฮิมมูลา คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผู้ขับเคลื่อนให้มีการบรรจุรายวิชาสิทธิมนุษยชนศึกษา (Human Rights Studies) ไว้ในหลักสูตร เพื่อให้มีการเรียนการสอนเรื่องสิทธิมนุษยชนสำหรับนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ และคณะอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ด้วยแนวคิดว่า การผลิตบัณฑิตที่มีความรู้และการตระหนักในคุณค่าของสิทธิมนุษยชน จะเป็นวิถีทางที่ดีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน ทั้งยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการประสานความร่วมมือการทำงานของทุกภาคส่วนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
  4. รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ทำงานส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิของผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ มายาวนานกว่า 20 ปี เป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการสร้างกลไกการเข้าถึงการรักษาโรคเอดส์ที่มีคุณภาพ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เน้นการทำงานแบบพหุภาคี ระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม สามารถพัฒนาต่อยอดและบูรณาการสิทธิการรักษาของผู้ป่วยเอดส์ให้เข้าระบบของรัฐ เช่น กองทุนประกันสุขภาพแห่งชาติ
  5. นางอรนุช ชัยชาญ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย ผู้มุ่งมั่นในการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การคุ้มครองเด็กและสตรีที่ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว และการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
  6. นายเกรียงไกร ไชยเมืองดี เลขาธิการและผู้อำนวยการมูลนิธิรักษ์เด็ก ผู้ดำเนินงานด้านสิทธิเด็ก โดยยึดฐานคิดจากอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เพื่อปกป้องคุ้มครองกลุ่มเด็กที่เสียเปรียบในสังคม กลุ่มเด็กเปราะบางในชุมชนพื้นที่ชนบทห่างไกล
  7. นายสุนทร สุนทรธาราวงศ์ ประธานมูลนิธิบ้านพระพร ผู้ดำเนินงานการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของกลุ่มผู้พ้นโทษ เป็นเวลากว่า 40 ปี เพื่อหยุดยั้งต้นเหตุแห่งปัญหาการกระทำผิดซ้ำ. – สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

บขส.เสริมรถอีก 1,000 คัน รองรับผู้โดยสารขาออกวันนี้

การเดินทางขาออกในเทศกาลสงกรานต์ 2568 ถือว่ารถโดยสารของ บขส. ยังมีบทบาทสำคัญ เพราะเป็นวันหยุด มีผู้โดยสารเดินทางแน่นตลอดวัน วันนี้ บขส.เสริมรถอีก 1,000 คัน รองรับผู้โดยสาร

นายกฯ เปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025”

นายกรัฐมนตรี เปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025” ณ ท้องสนามหลวง ฉลองปีใหม่ไทย จัดเต็มปรากฏการณ์สาดความสุขครั้งยิ่งใหญ่ หนุนมรดกไทยสู่ World Event ระดับโลก

สงกรานต์หาดใหญ่ คาดเงินสะพัด 780 ล้านบาท

สงกรานต์หาดใหญ่ จ.สงขลา ปีนี้คึกคัก ททท. คาดมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาร่วมกิจกรรมกว่า 7 หมื่นคน เงินสะพัดทั่วจังหวัดกว่า 780 ล้านบาท