แพร่ 7 ก.พ.-“นิพนธ์” จับมือ “นราพัฒน์” ลุยแก้ภัยแล้งภาคเหนือ ชูแนวทาง เปลี่ยนวัตถุประสงค์จากที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์ เป็นที่กักเก็บน้ำการเกษตร บรรเทาความเดือดร้อน สั่งการผู้ว่าฯ แพร่-กรมที่ดิน เร่งดำเนินการ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ตำบลวังหลวง อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.แพร่ นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ไฟป่าและหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยมีนายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์ภัยในพื้นที่
นายนิพนธ์ กล่าวว่า”สถานการณ์น้ำและแนวทางการแก้ปัญหาตลอดจนการจัดสรรน้ำด้านอุปโภค-บริโภค น้ำเพื่อการเกษตรของจังหวัดแพร่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่องมาหลายปีนั้น ในปี 2564 จังหวัดแพร่สามารถบริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภค และได้อย่างดีไม่ขาดแคลน ทำให้มั่นใจได้ว่าฤดูกาลแล้งนี้จะไม่ขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน แต่ขอให้สำรวจตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ ในระดับหมู่บ้าน ชุมชน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแผนรองรับ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ สิ่งที่เป็นปัญหาคือจะลำเลียงน้ำจากแหล่งกักเก็บน้ำไปยังพื้นที่เพาะปลูก พี่น้องเกษตรกรบางส่วนเรียกร้องการใช้น้ำโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell) ในการสูบน้ำไปยังไร่นาแหล่งเพาะปลูกต่างๆ และ ขอให้มีการขุดสระเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ทั้งนี้ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด จัดทำแผนงาน โดยผ่านกลไกชุมชนเพื่อขอเปลี่ยนแปลงจุดประสงค์การใช้ที่ดินจากที่สาธารณะที่ทำเลทุ่งเลี้ยงสัตว์เป็นแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งตรงนี้กระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่กำกับดูแลกรมที่ดินนั้น จะนำไปพิจารณาเป็นการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำ แต่ทั้งนี้จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนตามกฎระเบียบที่ถูกต้องต่อไป”
“ในส่วนของการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้สั่งให้เตรียมการจัดทำแผนเผชิญเหตุ ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้ดำเนินการตามนโยบายและข้อสั่งการ รวมถึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ควบคู่กับการใช้มาตรการทางกฎหมาย ตลอดจนชี้แจงข้อมูลแก่ประชาชนถึงผลกระทบด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากฝุ่นละออง ทั้งนี้ เพื่อให้การป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองมีประสิทธิภาพสูงสุด” นายนิพนธ์กล่าว .-สำนักข่าวไทย