fbpx

ศบค. จ่อชงนายกฯลงนามประกาศ ศบค.ฉบับ 6 พรุ่งนี้

ทำเนียบรัฐบาล 3 ม.ค. – ติดเชื้อพุ่ง 315 คน ใน 53 จังหวัด ศบค.จ่อชงนายกฯลงนามประกาศ ศบค.ฉบับที่ 6 วันพรุ่งนี้ ขณะนี้ยืดหยุ่น ยังไม่สั่งปิดร้านอาหาร โดยมอบให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาเป็นรายกรณี พร้อมขอความร่วมมือชะลอเดินทางข้ามจังหวัด เว้นแต่มีเหตุจำเป็น


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า วันนี้ (3 ม.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 315 ราย แบ่งเป็น ติดเชื้อในประเทศ 294 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศในสถานที่กักตัวของรัฐ 21 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมรวมอยู่ที่ 7,694 ราย หายป่วยแล้ว 4,337 ราย รักษาตัวอยู่ 2,417 ราย เสียชีวิตคงที่ 64 ราย

“ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นวันนี้ 315 ราย เป็นผู้ป่วยที่มีประวัติเชื่อมโยงกับจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 2 ราย คือ อยู่ใน กทม. 1 ราย และสมุทรสงคราม 1 ราย ส่วนที่เชื่อมโยงกับจังหวัดชลบุรี 1 ราย มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง สถานบันเทิง 37 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 234 ราย แรงงานต่างด้าว 20 ราย ผู้ป่วยที่เดินทางจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 21 ราย และขณะนี้ มีจังหวัดที่มีผู้ติดโควิดคงที่ 53 จังหวัด” โฆษก ศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ ยังเปิดเผยร่างประกาศมาตรการฉบับที่ 6 ของ ศบค. ก่อนที่จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.ลงนามวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) ว่า หลังจาก ศบค.ชุดเล็กหารือกับกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวานนี้ (2 ม.ค.) ก็ได้ทบทวนและปรับแก้ไขในบางมาตรการ เนื่องจากสถานการณ์ในแต่ละจังหวัดแตกต่างกันไป ทั้งนี้ ร่างประกาศมาตรการฉบับที่ 6 ที่จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามนั้น มีรายละเอียดทั้งหมด 8 ข้อ ประกอบด้วย

1.ห้ามใช้อาคารหรือสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค หรือการห้ามใช้อาคารและสถานที่ของสถาบันการศึกษาทุกประเภทในพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่สีแดงทั้งหมด 28 จังหวัด
2.ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการควบคุมโรค เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ สำหรับการจัดงานแต่งงานนั้น นายแพทย์ทวีศิลป์ ยอมรับว่า ได้เปิดช่องเอาไว้ว่า ต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ และต้องมีมาตรการตามแนวทางสาธารณสุข โดยได้ปรับเพิ่มรายละเอียด คือ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยคำแนะนำคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำหนดหลักเกณฑ์พิจารณาอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความเหมาะสม
3.การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค โดยให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณาสั่งปิดพื้นที่ภายในจังหวัด
4.เรื่องร้านอาหาร ที่ประชุมได้ปรับแก้ร่างใหม่เพื่อให้มีความยืดหยุ่น โดยกำหนดว่า ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดนั้น การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ให้จัดระเบียบการเข้าใช้บริการ จำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน การจัดสถานที่ตามแนวปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค โดยอาจให้เป็นลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่น และให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของกระทรวงมหาดไทย และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ร่วมกันพิจารณาและกำหนดรูปแบบ รวมถึงการกำกับการดำเนินการตามข้อปฏิบัติ และมาตรการต่างๆเพื่อให้เหมาะสม หรือ ให้เข้าใจง่ายคือ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เป็นผู้พิจารณาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประกอบกิจการร้านอาหาร เช่น หากมีพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อสูง ก็อาจให้ร้านอาหารในพื้นที่นั้น เป็นลักษณะซื้อกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น โดยที่ยังห้ามการจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกฮอล์ในร้านเช่นเดิม ขณะที่ห้างสรรพสินค้า ยังเปิดทำการตามเวลาปกติ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ผอ.ศบค.อีกครั้ง จากนั้น แต่ละพื้นที่จะออกประกาศเฉพาะในแต่ละพื้นที่

  1. มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งปิดหรือเปิดพื้นที่นอกเหนือจากที่กำหนดได้
  2. ไม่ได้ห้ามเรื่องการเดินทางข้ามจังหวัด ยังสามารถเดินทางได้ แต่ต้องตรวจคัดกรองถึงความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ โดยไม่ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด เว้นแต่มีเหตุจำเป็น แต่ก็ยอมรับว่า มีพบกรณีคนขับรถตู้ติดเชื้อ ทำให้ผู้โดยสารติดเชื้อไปกว่าครึ่งรถ จึงไม่อยากให้เดินทางกันมาก ดังนั้น ต้องนำข้อมูลของแต่ละจังหวัดมาพิจารณา และออกประกาศเป็นรายจังหวัด
    7.การทำงาน Work From Home สลับวันเวลา เหลื่อมวันทำงาน
    8.ให้คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายข้อบังคับการใช้มาตรการป้องกันและยับยั้ง เสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่ออนุญาตให้ผ่อนคลายหรือกระชับมาตรการที่บังคับใช้กับสถานที่ต่างได้ตามความเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ