ชงส่งศาล รธน. ถอดถอน “สิระ” พ้น ส.ส.

รัฐสภา23 ธ.ค. – “เสรีพิศุทธ์” ชงประธานสภาฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอน “สิระ” พ้น ส.ส. ชี้ เคยติดคุก เพราะฉ้อโกงประชาชน ถือขาดคุณสมบัติชัดเจน ยัน ไม่ใช่เรื่องขัดแย้งส่วนตัว  ตรวจสอบตามหน้าที่ พร้อมส่ง กกต.พิจารณาต่อด้วย


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส  ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร  เปิดเผยว่า  เตรียมยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสถานภาพความเป็น ส.ส. ของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ต้องสิ้นสุดลงหรือไม่ หลังกรรมาธิการ ป.ป.ช.ตรวจสอบตามคำร้องของประชาชน พบว่า นายสิระเคยต้องโทษจำคุก ในคดีฉ้อโกงประชาชน เมื่อปี 2538 ถือเป็นลักษณะต้องห้ามของ ส.ส.ตามมาตรา 98 (10)  ที่กำหนดห้ามบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนเป็น ส.ส.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้นำสำเนาคำพิพากษาศาลแขวงปทุมวัน เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2538 ที่พิพากษาจำคุกนายสิระฐานฉ้อโกงทรัพย์ มาโชว์ในที่แถลงข่าวด้วย พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว หรือเป็นประเด็นทางการเมือง เป็นเพียงการตรวจสอบตามหน้าที่   


“ที่ผ่านมา ไม่เคยไปเป็นคู่ขัดแย้งกับนายสิระ มีแต่นายสิระที่ขัดแย้งกับตผม  ผมทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา  เรื่องนี้ประชาชนร้องเข้ามาทั้งหมด 4 คดี แต่ผมได้พิจารณาแล้วว่า คดีขับรถชนคนตาย กับคดีทำร้ายร่างกาย นายสิระพ้นโทษจำคุกมาแล้วมากกว่า 10 ปี  ไม่ถือว่าเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ จึงตัดประเด็นดังกล่าวทิ้งไป” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นอกจากยื่นประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญแล้ว  จะยื่นเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วย เพราะถือว่านายสิระรู้ตัวเองดีว่าขาดคุณสมบัติ แต่ยังยืนยันสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ถือเป็นการแจ้งเท็จต่อเจ้าหน้าที่ มีความผิดตามมาตรา 151 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง มีโทษจำคุก 1-10 ปี และปรับสูงสุด 2 แสนบาท พร้อมขอให้ชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งทั้งหมด และ หากศาลชี้ว่านายสิระผิดจริง จะต้องคืนเงินเดือนทั้งหมดให้หลวงด้วย  .- สำนักข่าวไทย    


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง