“เทพไท” ชี้ 4 ปัจจัยรัฐบาลไปต่อหรือไม่

กรุงเทพฯ 15 ธ.ค.-“เทพไท” มองฝ่ายค้านคุยมีหมัดเด็ดคว่ำรัฐบาลในเวทีซักฟอก แค่ตีปี๊บโฆษณาชวนเชื่อ ชี้ 4 ปัจจัยหลักเปลี่ยนฝ่ายบริหาร


นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางคนว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกลไกการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติที่มีต่อฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและเป็นวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย ส่วนที่สมาชิกพรรคฝ่ายค้านขู่ว่ามีข้อมูลเด็ด อาจทำให้ถึงขั้นช็อคได้ เป็นการโหมโรง ตีปี๊บโฆษณา สร้างกระแส หรือปล่อยข่าวก่อนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่ต้องการเรียกร้องความสนใจจากประชาชนให้ติดตามศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

“แต่ในความเป็นจริง ข้อเท็จจริงทั้งหมดจะมีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน อยู่ที่วันเปิดอภิปรายว่าจะเป็นของจริงหรือแค่ราคาคุย ซึ่งจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่องค์ประกอบ คือ 1.ตัวผู้อภิปรายต้องเตรียมข้อมูลชัดเจน ชี้ชัดเห็นข้อบกพร่องการปฎิบัติหน้าที่ เปิดหลักฐานทุจริตคอรัปชั่นต่อที่ประชุม ซึ่งเปิดเผยได้เต็มที่ เพราะการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรมีเอกสิทธิ์คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถนำมาฟ้องร้องดำเนินคดีได้ 2.ตัวนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายต้องเตรียมตอบคำอภิปรายของฝ่ายค้าน โดยนำข้อเท็จจริง พยานหลักฐานมาหักล้างที่ถูกกล่าวหา โดยชี้แจงด้วยตัวเองทันที ไม่จำเป็นต้องมีตัวช่วยหรือสร้างองครักษ์พิทักษ์ เพราะเวทีนี้ไม่จำเป็นต้องมีพี่เลี้ยง” นายเทพไท กล่าว


นายเทพไท กล่าวว่า 3.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องใช้ดุลยพินิจวิจารณญานตัดสินใจลงมติด้วยตัวเอง ต้องชั่งน้ำหนักเหตุผลระหว่างข้อมูลของผู้อภิปรายกับคำตอบของผู้ถูกอภิปรายว่าข้อมูลของฝ่ายใดมีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากกว่า ต้องใช้เอกสิทธิ์ของตัวเองลงมติโดยอิสระ ปราศจากการครอบงำใด ๆ และ 4.ภาคประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง สามารถให้คะแนนการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แม้ว่าจะเป็นคะแนนเสียงนอกสภา ไม่ผลทางกฎหมาย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาแม้ว่าฝ่ายรัฐบาลจะชนะเสียงโหวตในสภาแต่ถ้าข้อมูลของรัฐบาลสวนกระแสความรู้สึกของประชาชน รัฐบาลก็ไม่สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ ดังนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง มีความสำคัญและมีความหมายทางการเมือง เพราะเป็นมาตรการขั้นรุนแรงที่สุดทางการเมืองในการตรวจสอบรัฐบาล เปรียบเสมือนการพิพากษาประหารชีวิตทางการเมืองของรัฐบาลทุกยุคสมัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” บอกเป็นนายกฯ GEN Y อยากให้ทุกคนเข้าใจ

“แพทองธาร” พร้อมแจงฝ่ายค้านตั้งหัวข้อซักฟอกภาวะผู้นำ ย้อนต้องเป็นผู้นำให้ได้ก่อน แล้วค่อยพูดถึงคนอื่น บอกเป็น “นายกฯ GEN Y” พร้อมแจงให้ประชาชนเข้าใจข้อมูลที่แท้จริง ยังไม่บอกใครเป็นองค์รักษ์ ส่วน “ทักษิณ” เข้าบ้านพิษณุโลก ถกวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจโลก หลัง “ทรัมป์” นั่งปธน.

เสือแก่งกระจาน

4 เสือป่าแก่งกระจาน​อวดโฉมผ่านกล้องดักถ่าย​ สะท้อน​ความ​อุดมสมบูรณ์

เสือ​ 4 ชนิด ปรากฏ​ตัวผ่าน​กล้อง​ดัก​ถ่าย​ในอุทยาน​แห่งชาติ​แก่งกระจาน​ สะท้อน​ความ​อุดม​สมบูรณ์ของระบบนิเวศ​ อันเป็นผลจากการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ​ที่เข้มข้นในผืนป่ามรดก​โลก

จดหมายอุยกูร

ราชทัณฑ์ ยันจดหมายผู้ต้องขังไม่มีตราประทับของเรือนจำ

ราชทัณฑ์ แจงจดหมายผู้ต้องขังจากเรือนจำจะไม่มีตราประทับของเรือนจำ และผู้ต้องขังชาวอุยกูร์ยืนยันไม่เคยเขียนจดหมายฉบับดังกล่าว ชี้เป็นจดหมายที่ทำขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้อง

ล่าโจรชิงทอง 102 บาท กลางห้างดังแม่สอด

โจรสวมชุดไรเดอร์ควงปืนพกสั้นบุกชิงทองร้านทองกลางห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก ใช้เวลาเพียง 1 นาที กวาดทองคำรูปพรรณน้ำหนักรวม 102 บาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป