กสม.ขอทุกฝ่ายใช้พลังบวกร่วมฝ่าวิกฤติ

สำนักงานกสม. 9 ธ.ค.-กรรมการสิทธิ์ฯ ส่งสารเนื่องในวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธ.ค. เรียกร้องทุกฝ่ายใช้พลังบวกร่วมฝ่าฟันวิกฤติโควิด –ภัยธรรมชาติ ความเห็นต่างทางการเมือง ขจัดการเลือกปฏิบัติ ยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชน


นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ส่งสารเนื่องในวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคม ประจำปี 2563 ระบุว่า 10 ธันวาคมของทุกปี นอกจากเป็นวันสำคัญของประเทศไทยคือวันรัฐธรรมนูญแล้ว ในทางสากลยังถือเป็นวันสำคัญยิ่งสำหรับประชาคมโลก คือ “วันสิทธิมนุษยชนสากล” (Human Rights Day) สืบเนื่องมาจากการที่องค์การสหประชาชาติมีมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights)

ปี 2563 เป็นปีที่ทั่วโลกต่างเผชิญกับวิกฤติด้านสุขภาพ คือการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด-19 ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นเมื่อผู้คนต้องเผชิญกับความยากจน การเลือกปฏิบัติ การถูกกีดกันด้วยเหตุแห่งโรค ความเหลื่อมล้ำ ความรุนแรงในครอบครัว ทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย และการเข้าไม่ถึงกลไกการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน


สำหรับประเทศไทย ในปี 2563 นี้ นอกจากจะเผชิญกับภัยคุกคามด้านสุขภาพจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิของประชาชนกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กเร่ร่อน คนไร้บ้าน คนพิการ ผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้ง แรงงานนอกระบบ และกลุ่มชาติพันธุ์ไร้รัฐ ไร้สัญชาติ อย่างใกล้ชิด

ประเทศไทยยังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความตื่นตัวของเด็ก เยาวชนและประชาชนหลายกลุ่มหลายฝ่ายต่อการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางอันสอดคล้องกับวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย โดยที่ผ่านมากสม. ได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมมาอย่างต่อเนื่อง และเข้าสังเกตการณ์การชุมนุมเพื่อเก็บข้อมูลประกอบการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ผู้ชุมนุม และประชาชน ซึ่งมีความเห็นที่แตกต่างตระหนักและเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนซึ่งกันและกัน ดำเนินการใด ๆ ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย และแสวงหาทางออกร่วมกันด้วยสันติวิธี

เนื่องในโอกาสวันสิทธิมนุษยชนสากล คณะกรรมการสิทธิฯ ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันฝ่าฟันทุกวิกฤติการณ์ทั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19 และการมีส่วนร่วมทางการเมือง การแสดงความคิดเห็น รวมทั้งภัยพิบัติธรรมชาติต่าง ๆ ด้วยใจที่เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ขจัดการเลือกปฏิบัติ เชื่อมั่นในความเท่าเทียมของบุคคลและความหลากหลายอันเป็นความงดงามของสังคมประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าฝ่าฟันทุกปัญหาต่อไปได้ด้วยพลังบวกของผู้คนในสังคมที่ยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ