สติธร คาดเลือก อบจ. คนแห่กลับบ้านใช้สิทธิเลือกตั้ง

สำนักงาน กกต.4 ธ.ค.- “สติธร“ คาดเลือก อบจ. คนแห่กลับบ้านใช้สิทธิเลือกตั้ง เหตุกลุ่มการเมืองสร้างเป็นกระแสหวังโค่นอำนาจเก่า – สร้างนัยยะเปลี่ยนแปลงการเมืองระดับชาติ เชื่อแม้ กกต.ฟันคณะก้าวหน้าทำตัวคล้ายพรรคการเมือง ไม่กระทบตัวผู้สมัคร


นายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคมว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความน่าสนใจเนื่องจากเราไม่ได้เลือกตั้งท้องถิ่นมากว่า 8 ปีแล้ว ก็คาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น และครั้งนี้มีพรรคการเมืองจำนวนหนึ่งส่งผู้สมัครลงเปิดเผยในนามพรรคลงแข่งขันในจังหวัดสำคัญ รวมถึงมีคณะการเมืองกลุ่มหนึ่งที่หวังจะเปลี่ยนแปลงการเมืองในระดับท้องถิ่นส่งผู้สมัครลงด้วยเมื่อโยงกับกระแสการเมืองหลักโดยเฉพาะกระแสคนรุ่นใหม่ คือพยายามทำให้การเมืองท้องถิ่นใกล้ชิดประชาชนทำให้คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญมากขึ้น จึงคิดว่าสนามนี้เป็นการประลองกันระหว่างกลุ่มอำนาจเก่า กับกลุ่มอำนาจใหม่ที่เข้ามาท้าทาย

นายสติธร กล่าวว่า ช่วง 1 สัปดาห์สุดท้ายคงต้องดูกันอีกทีในเรื่องความตื่นตัวของคนที่จะออกไปเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งรอบนี้มีพรรคการเมืองที่มาจากกระแสที่หวังจะไปโค่นอำนาจเก่าในจังหวัดเขาก็ต้องระดมความรู้สึกของผู้คน การเลือกตั้ง อบจ. ส่วนหนึ่งอาจไม่ใช่ในสนามที่คนชนะเลือกตั้งสามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรในจังหวัดได้มาก แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองอย่างน้อย ๆ คือการชนะในจังหวัด ๆ หนึ่งถ้ามานับกันใน 76 จังหวัดแล้วแยกการเมืองระดับชาติลงไปจัดการอย่างเช่นพรรคหรือกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลชนะเท่าไร ฝ่ายค้านชนะเท่าไรก็มีนัยยะสำคัญทางการเมืองเหมือนกัน ตรงนี้ก็อาจเป็นแรงจูงใจให้พรรคที่เขาต้องการสร้างกระแสทางการเมืองระดมผู้คนให้เห็นความสำคัญ จนเราอาจได้เห็นการกลับบ้านของคนไปเลือกตั้งมากกว่าขึ้นกว่าอดีต


“ต้องยอมรับว่าการเมืองท้องถิ่นที่ผ่านมา แม้เป็นเรื่องใกล้ตัว แต่มันใกล้ตัวกับประชาชนในพื้นที่ คนที่ออกมาทำงานนอกพื้นที่ ออกมาเรียนนอกพื้นที่เขาจะรู้สึกว่าห่างเหิน บริการที่เขาได้จากการท้องถิ่นก็จะได้จากท้องถิ่นที่เขามาพัก มาทำงานมากอยู่ บ้านเกิดที่ตัวเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ฉะนั้นความผูกพันใกล้ชิดก็จะน้อย การที่เขาจะรู้สึกอยากกลับไปเลือกแปลว่าต้องมีแรงจูงใจคล้ายกับการเลือกตั้งระดับชาติที่ทำไมเรายอมกลับบ้านไปเลือกเพราะเราอยากเลือกรัฐบาล และนโยบายที่เราอยากได้ และที่เราสามารถเลือกได้มีแค่ที่บ้านเท่านั้น แต่ท้องถิ่นเราได้บริการในที่ที่เราอยู่ได้โดยไม่ต้องไปเลือกตั้งแทนทำให้มีลักษณะว่าถ้าอยากให้คนไปเลือกตั้งท้องถิ่นมากก็ต้องสร้างแรงจูงใจให้เขาอยากลับมา”นายสติธร กล่าว

นายสติธร ยังเห็นว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ไม่ใช่ผู้สมัครที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมจะได้เปรียบ เหมือนเช่นอดีต เพราะครั้งนี้มีความท้าทายว่ากลุ่มที่เข้าไปแข่งขันมีความต้องการเปลี่ยนขั้วอำนาจในจังหวัด เขาจะเชิญชวนคนพื้นที่ ที่ไปทำงานอยู่นอกเขตแล้วไม่ได้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับกลุ่มหรือทีมผู้สมัครเจ้าของพื้นที่เดิม ให้กลับมาใช้สิทธิจำนวนมากๆ ในลักษณะที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งได้ ก็จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสนุกคึกคักมากกว่า

ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มีการร้องต่อกกต.ว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคณะก้าวหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร อบจ. มีลักษณะคล้ายพรรคการเมือง อีกทั้งคณะก้าวหน้าก็มีปัญหากับรัฐบาล จะทำให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่หรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า เป็นผลได้ทั้งสองทางในด้านลบภาพของความขัดแย้ง การไม่ได้รับการต้อนรับอาจทำให้ภาพลักษณ์ของคณะก้าวหน้าดูไม่ได้รับการตอบสนองจากประชาชนเท่าที่ควร แต่ขณะเดียวกันภาพเหล่านี้ทำให้เกิดพื้นที่ข่าวกับคณะก้าวหน้า และอาจปลุกความรู้สึกของคนที่มองการเลือกตั้งท้องถิ่นแค่เป็นเรื่องของการเลือกตัวแทนไปทำหน้าที่ในท้องถิ่น เปลี่ยนเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นคือการพิสูจน์อุดมการณ์หรือความคิด หรือจุดยืนทางการเมืองในระดับชาติก็อาจจะเป็นการปลุกกระแสให้คนออกมาใช้สิทธิมากขึ้นซึ่งก็ได้ทั้งสองทาง แต่ขณะนี้เรายังอาจยังมองไม่เห็นว่าการใช้สิทธิเลือกตั้งจะคึกคักแค่ไหนแต่ในวันที่ 20 ธันวาคม เขาอาจจะกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้งก็ได้


เมื่อถามว่า จะเป็นการสร้างกระแสเอาเลือกตั้งท้องถิ่นมาล้มการเลือกตั้งระดับชาติได้หรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า คงต้องวัดกัน ส่วนหนึ่งมันมีภาพลักษณ์อยู่แล้วของพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่พยายามเชื่อมโยงการเมืองท้องถิ่น หรือการเมืองระดับชาติเข้าด้วยกัน ซึ่งตนมองว่าการตัดสินเลือกผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นครั้งนี้ นอกจากจะดูตัวบุคคล กลุ่มของการเมืองท้องถิ่นแล้วน่าจะมองถึงการเชื่อมโยงกับการเมืองระดับชาติด้วย อย่างไรก็ตามยังเห็นว่าหากท้ายที่สุดกกต.วินิจฉัยว่าการดำเนินการของคณะก้าวหน้ามีลักษณะคล้ายพรรคการเมืองก็จะมีผลเอาผิดเฉพาะคนที่ทำตัวเสมือนพรรคการเมืองเท่านั้น ถูกลงโทษ ไม่น่าจะเอาผิดกับตัวผู้สมัครของกลุ่มได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]