สำนักงานกกต. 30 พ.ย.-กกต.คืนสิทธิผู้สมัครนายก อบจ.อุตรดิตถ์-ส.อบจ.สมุทรสาคร เหตุไม่มีลักษณะต้องห้าม พร้อมยกคำร้องคัดค้านผู้สมัครส.อบจ.อุตรดิตถ์ เหตุพ้นคุกคดีอาวุธปืนยังไม่ครบ 5 ปี
สำนักงานกกต.เผยแพร่คำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต. )เกี่ยวกับการวินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาองค์กรบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) รวม 3 กรณี ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศชื่อในบัญชีรายชื่อผู้รับสมัครเลือกตั้ง และได้ยื่นคัดค้านการไม่ประกาศรายชื่อต่อกกต. ประกอบด้วย กรณีนายโปรย สมบัติ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.อุตรดิตถ์ ที่ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำอบจ.อุตรดิตถ์ไม่รับสมัคร เนื่องจากเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ มาตรา 50 (3) เพราะเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ
โดยกกต.เห็นว่านายโปรยเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ทันข่าว แต่ในวันที่ 17 มกราคม 2562 ได้โอนกิจการหนังสือพิมพ์ดังกล่าวให้แก่บุตรสาว และแสดงหนังสือสำคัญแสดงการจดแจ้งการพิมพ์ตามพ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 เป็นหลักฐาน ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่านายโปรย ไม่ได้มีลักษณะต้องห้าม จึงมีคำสั่งให้รับสมัคร และประกาศรายชื่อนายโปรยเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อุตรดิตถ์
กรณีร.ต.อ.วิชัย ศรีนิเวศน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาอบจ.สมุทรสาคร ซึ่งผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำอบจ.สมุทรสาครไม่รับสมัคร เนื่องจากเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ มาตรา 50 (10) เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ค้า กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่าร.ต.อ.วิชัยไม่ใช่จำเลยในคดีความผิดว่าด้วยยาเสพติด แต่เป็นผู้จับกุมบุคคลที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด และเป็นความผิดเรื่องการบันทึกข้อมูลในระบบฐานข้อมูลว่า ร.ต.อ.วิชัย เป็นจำเลยคดีดังกล่าว กกต.จึงมีคำสั่งให้รับสมัครและประกาศรายชื่อ ร.ต.อ.วิชัย เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร อ.บ้านแพ้ว เขต 4
ส่วนกรณีนายฤทธิรงค์ อินสอน ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.อุตรดิตถ์ อำเภอทองแสนขัน เขต 1 ซึ่งผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำอบจ.อุตรดิตถ์ไม่รับสมัครเนื่องจากเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (7) เนื่องจากเคยได้รับโทษจำคุก โดยพ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีนับแต่วันเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือเป็นความผิดลหุโทษ โดยกกต.พิจารณาแล้วเห็นว่านายฤทธิ์รงค์ได้รับโทษจำคุก 9 เดือน และพ้นโทษเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559 นับถึงวันเลือกตั้งคือ 20 ธันวาคม 2563 ยังไม่ถึง 5 ปี และไม่ใช่ความผิดฐานลหุโทษ โดยอ้างตามคำพิพากษาศาลอุตรดิตถ์และศาลอุทธรณ์ภาค 6 ที่พิพากษาว่านายฤทธิ์รงค์มีความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ กกต.จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง เท่ากับว่านายฤทธิ์รงค์ถือเป็นผู้ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ได้แถลงข้อมูลว่าในจำนวนผู้สมัครที่ไม่ได้รับการประกาศชื่อทั่วประเทศมีจำนวน 23 คน ซึ่งสามารถยื่นคัดค้านการไม่ประกาศรายชื่อต่อ กกต.ได้ และกฎหมายกำหนดให้คำวินิจฉัยของกกต.ในกรณีคุณสมบัติของผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นที่สุด.-สำนักข่าวไทย