ชลบุรี 23 พ.ย.-พช.ปลุกพลังคนบ้านสวน “Change for Good มุ่งสร้างชุมชนเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน”
วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย บรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “Change for Good มุ่งสร้างชุมชนเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน” ตามโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชน เทศบาลเมืองบ้านสวน จังหวัดชลบุรี โดยมี นายจักรวาล ตั้งประกอบ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านสวน จังหวัดชลบุรี เป็นผู้จัดโครงการฯ มีเป้าหมายเป็นคณะกรรมการชุมชนทุกชุมชนจาก 47 ชุมชน คณะกรรมการศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลบ้านสวน คณะกรรมการกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตำบลบ้านสวน คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล จำนวน 265 คน ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เป็นชุมชนเข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน จากสถานการณ์โลกในปัจจุบัน เกิดภาวะปรากฏการณ์เรือนกระจก Greenhouse Effect ขบวนการที่รังสีความร้อนจากพื้นผิวโลกถูกดูดซับ จากการเผาไหม้ การเน่าเสียของขยะมูลฝอย ลอยขึ้นไปห่อหุ้มโลก จนเกิดกระบวนการที่รังสีถูกกั้นไว้เป็นเวลานานเกิดภาวะที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศมากมาย ทั้งภาวะน้ำแข็งขั้วโลกละลาย เป็นต้น และที่สำคัญมีผลกระทบมาถึงพวกเราแน่นอน ดั่งทฤษฎี butterfly effect จากอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกันคือ Change for Good เพื่อนำการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในทุกเรื่อง ทุกด้าน ทุกมิติ
“Change for Good มุ่งสร้างชุมชนเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน” นั้น คือ เปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่า เป็นกระบวนการที่เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ จากตัวเราก่อน เราต้องทำก่อน ไม่อยู่นิ่งในการดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัว ดูแลชุมชน ต้องดูแลเรื่องความรัก ความสมัครสมานสามัคคีในครัวเรือน ตัวอย่างเช่น กรมการพัฒนาชุมชน รณรงค์ให้คนไทยปลูกผักสวนครัว ปลอดสารพิษ ไว้ทานเอง เพื่อความมั่นคงทางอาหาร กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้มีกิจกรรมที่ผู้นำต้องทำก่อน โดยให้ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนต้องปลูกผักก่อน ก่อนที่จะรณรงค์ให้ครัวเรือนปลูกผักสวนครัว เพื่อเป็นต้นแบบ เป็นตัวอย่างที่ดี ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนี้นำไปสู่ชุมชนเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยวิธีการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ใช้พลังชุมชนเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
การมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ชุมชนต้องมีการกำหนดเป้าหมาย ทิศทางการพัฒนาชุมชนตามสภาพปัญหา และความต้องการที่แท้จริงของชุมชน ชุมชนต้องการอะไร ชุมชนต้องพัฒนาศักยภาพเกื้อหนุน บูรณาการการในทุกมิติ ทั้งกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม กิจกรรมด้านการศึกษา กิจกรรมด้านสุขภาพอนามัย การบริหารจัดการบ้านเรือนให้ถูกต้องถูกสุขลักษณะอนามัย เริ่มจากบ้านเรือนต้องมีการบริหารจัดการขยะ โดยทุกครัวเรือนต้องเป็นมนุษย์ 3R คือ R : Reduce คือ การลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็นลง R : Reuse คือ การใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด โดยการนำสิ่งของเครื่องใช้มาใช้ซ้ำ R : Recycle คือ การนำหรือเลือกใช้ทรัพยากรที่สามารถนำกลับมารีไซเคิล หรือ นำกลับมาใช้ใหม่ อย่างไรก็ดี Change for Good ต้องเริ่มจากตัวเรา ต้องค้นหาปัญหาให้เจอ ต้องมีเป้าหมาย รู้สภาพปัญหาทั้งกายภาพและสังคม เสริมสร้างกิจกรรมดูแลผู้สูงอายุ เสริมสร้างความรักความสามัคคีรวมกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทุกคนต้องมี “Passion” หรือความปรารถนา อยากให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้นเหมือนกัน แต่การดำเนินการควรควบคู่ไปกับความเข้าใจในปัญหา และจัดการพัฒนาทุกเรื่องอย่างมีแบบแผน การวางแผนต้องมีองค์ความรู้ จากหน่วยงานต่างๆ ร่วมบูรณการ Change for Good
“กรมการพัฒนาชุมชน เราเปรียบเสมือนเป็นเพื่อนสนิท เป็นลูกหลาน สามาถเรียกใช้ได้ตลอดเวลา ซึ่งเป้าหมายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและชุมชนพึ่งตนเองได้ เป็นองค์กรที่พัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่า Change for Good ทั้งในเรื่องการขับเคลื่อนการรณรงค์การปลูกผักสวนครัวเพื่อความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมการตลาด พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก การส่งเสริม OTOP การเข้าถึงแหล่งทุนชุมชน การอนุรักษ์สืบสานประเพณีไทย การใช้ผ้าไทย ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาความรู้ ให้มีความรู้เท่าทัน คนเราสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา การไม่เรียนรู้อยู่กับที่เท่ากับถอยหลัง เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกหลาน ต้องรักสถาบันหลักของประเทศไทย ทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นแบบอย่างที่ดีในการ Change for Good เพื่อมุ่งสร้างชุมชนเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป” อธิบดี พช. กล่าวทิ้งท้าย.-สำนักข่าวไทย