รัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไข รธน. 7 ฉบับ

รัฐสภา 17 พ.ย.- กมธ.ศึกษา รธน. ชี้แจงรายงานการศึกษาว่า หลายเรื่องยังเห็นต่างกัน แต่เห็นตรงกันว่าต้องไม่แก้ไข รธน. ที่กระทบพระราชอำนาจ


ทันทีที่เปิดการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา รายงานต่อที่ประชุมว่า ส.ว.ได้เวลาอภิปราย 5 ชั่วโมงครึ่ง ภาคประชาชนที่เสนอร่างกฎหมายได้เวลาชี้แจงร่างกฎหมายครึ่งชั่วโมง ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน รายงานว่า ได้ตกลงกันกับฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านได้เวลา 5 ชั่วโมง ส่วน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลได้ 4 ชั่วโมง แต่กังวลว่า หากจะตั้งเป้าหมายให้ลงมติได้ไม่เกินวันพรุ่งนี้ ในวันนี้ จะต้องอภิปรายจบหลังเที่ยงคืน แล้วอภิปรายวันพรุ่งนี้ต่อไม่เกิน 14.00 น. และลงมติจบไม่เกิน 18.00 น. ก่อนที่นายชวน จะกล่าวสรุปว่า ระยะเวลาอภิปราย จะใช้ประมาณ 15 ชั่วโมงเศษ

ต่อมา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ รายงานผลการศึกษาว่า ได้ศึกษาประเด็นข้อกฎหมายว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2555 หรือไม่ การทำประชามติจำเป็นต้องดำเนินการก่อนเริ่มการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ควรกำหนดวิธีการอย่างไร เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่กระทบต่อพระราชอำนาจในหมวดอื่นๆ นอกจากหมวด 1 และ 2 และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญร่างที่ 3 ถึง 6 ขัดต่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญร่างที่ 1 และ 2 หรือไม่ เนื่องจากเมื่อมี ส.ส.ร.ขึ้นมาเพื่อยกร่างทั้งฉบับ จะทับซ้อนกับการแก้ไขเนื้อหารายมาตราหรือไม่


จากนั้นนายนิกร จำนง ประธานอนุกรรมาธิการจัดทำรายงานพิจารณาศึกษา ชี้แจงเนื้อหารายงานว่า เมื่อไม่มีฝ่ายค้านร่วมด้วย จึงไม่มีข้อสรุป โดยให้บันทึกความเห็นในคณะกรรมาธิการไว้ ซึ่งผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2555 หรือไม่นั้น มีความเห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมสามารถทำได้ แต่การตั้ง ส.ส.ร. ก็มีความเห็นต่างกันเป็น 2 แนวทาง เช่นเดียวกับการออกเสียงประชามติ บางฝ่ายเห็นว่า ควรออกเสียงเพียง 1 ครั้ง อีกฝ่ายเห็นว่า ควรทำประชามติก่อนดำเนินการด้วย แต่ก็มีความเห็นเป็นทางเดียวกันว่า การดำเนินการประชามติต้องให้มีกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติเสียก่อน ส่วนการป้องกันไม่ให้มีการแก้ไขกระทบพระราชอำนาจในมาตราอื่นๆ นอกจากหมวด 1 และ 2 ก็เห็นไปในทางเดียวกันว่า พระราชอำนาจในหมวดอื่นๆ เป็นไปในฐานะประมุขแห่งรัฐอยู่แล้วตามหมวด 1 และ 2 ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 3-6 ซึ่งเป็นการแก้ไขรายมาตรา บางฝ่ายเห็นว่าไม่มีปัญหา สามารถดำเนินการได้ แต่บางฝ่ายก็เห็นว่าซ้ำซ้อนกับ ส.ส.ร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย