รัฐสภา 10 พ.ย.– “ไพบูลย์ – สมชาย” แจง ส.ส.และส.ว. 73 คน เข้าชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่งศาล รธน. ยันไม่ได้ถ่วงเวลา ระบุเหตุที่ยื่นเพราะการตั้งส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายร่างรัฐธรรมนูญใหม่
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แถลงถึงการเข้าชื่อพร้อมสมาชิกรัฐสภา รวม 73 คน เพื่อเสนอญัตติขอมติรัฐสภาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ในการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ตามมาตรา 256 ว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ และร่างของไอ ลอว์
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การเสนอญัตติครั้งนี้ เป็นไปตามข้อบังคับ เพื่อให้ประธานรัฐสภาบรรจุระเบียบวาระให้ที่ประชุมพิจารณา สำหรับเหตุผลที่ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะสมาชิกวุฒิสภา หลายคนทักท้วงว่ารัฐสภาไม่มีอำนาจในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเมื่อพิจารณาข้อกฎหมายพบว่า มีปัญหาที่จะต้องทำความชัดเจน ก่อนที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสิ้นสุดกระบวนการ เพราะ
ไม่ได้ต้องการให้สะดุดหยุดลงตั้งแต่ต้น ดังนั้น จะให้มีการพิจารณา รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับไปก่อนแล้วให้รัฐสภาพิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ หลังรับหลักการแล้ว และหากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง ยืนยันว่าจะไม่ทำให้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับในวาระ 2 ต้องหยุดลง ดังนั้นระหว่างศาลยังวินิจฉัยยังไม่เสร็จ การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญยังคงดำเนินต่อไป จนถึงวาระ3 เลยก็ได้ สมาชิกที่ลงชื่อไม่ได้มีเจตนาถ่วงเวลา เพราะ ตน และ ส.ว. เห็นตรงกันว่าต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ต้องการให้เป็นไปอย่างถูกต้อง
ด้านนายสมชาย แสวงการ กล่าวว่า วุฒิสภามีหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย เมื่อพิจารณาแล้ว พบว่าการตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาจัดทำรัฐธรรมนูญนั้น อาจเข้าข่ายเป็นการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ซึ่งไม่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เรื่องนี้ไม่ถือเป็นการเติมเชื้อไฟ และเชื่อว่าการส่งศาล จะไม่เป็นเงื่อนไขให้สมาชิกตีตกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่การพิจารณารับหลักการในวาระแรก.-สำนักข่าวไทย