กรุงเทพฯ 4 พ.ย.-“เทพไท” ชี้พ.ร.บ.ห้ามผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองหาเสียงช่วยผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่น ขัดขวางการกระจายอำนาจสู่ประชาชน เป็นผลงานชิ้นโบว์ดำของสนช. เตรียมเสนอตั้งกมธ.ศึกษาแก้ไข
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ผลการประชุมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่มีมติห้ามข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นหาเสียง ว่า เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 34 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับใหม่ที่มีความแตกต่างกับพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ที่เคยถือว่าเป็นแนวปฎิบัติกันมาในอดีต ที่มีข้อห้ามเฉพาะข้าราชการการเมืองเท่านั้น และสามารถใช้เวลานอกราชการ หรือวันหยุดราชการช่วยหาเสียงได้
“แต่ในพ.ร.บ.ฉบับนี้ ห้ามช่วยหาเสียงเด็ดขาด ไม่เว้นวันหยุดราชการหรือเวลานอกราชการ ข้อกำหนดของพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลกระทบต่อพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นในนามพรรค ซึ่งทำให้สมาชิกพรรคที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ช่วยดำเนินงานส.ส.รวมถึงสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ไม่สามารถช่วยผู้สมัครในนามพรรคหาเสียงได้ ซึ่งเป็นการทำลายโอกาสของพรรคการเมืองในการรณรงค์หาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรค เป็นการไม่ส่งเสริมให้ผู้บริหารท้องถิ่นลงสมัครในนามพรรคการเมืองอีกในโอกาสต่อไป ทั้งเป็นการไม่ส่งเสริมให้พรรคการเมืองมีบทบาทในการเมืองระดับท้องถิ่น นับว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์ดำของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) อีกฉบับหนึ่ง ที่ไม่ต้องการให้พรรคการเมืองเข้าไปเชื่อมโยงการเมืองระดับท้องถิ่น เป็นแนวความคิดต้องการขัดขวางการกระจายอำนาจสู่ประชาชน” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 เป็นครั้งแรกของการใช้พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ซึ่งอาจจะฝ่าฝืน หรือกระทำผิดกฏหมายหลายราย จึงอยากจะให้กกต.ประชาสัมพันธ์ข้อห้ามตามพ.ร.บ.ฉบับนี้ให้ได้รับทราบอย่างกว้างขวาง เพื่อไม่ให้กระทำผิดพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 เกิดขึ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
“ผมเคารพและพร้อมปฎิบัติตามเงื่อนไขและข้อห้ามในพ.ร.บ.ฉบับนี้ทุกประการ แต่เพื่อไม่ให้พระราชบัญญัติฉบับนี้ เป็นปัญหาอุปสรรคสำหรับการรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองในโอกาสต่อไป จะนำเสนอให้พรรคการเมืองทุกพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนพิจารณาเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาปัญหาและแก้ไขพ.ร.บ.ฉบับนี้ให้มีเนื้อหาสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และไม่ขัดต่อแนวปฏิบัติในการช่วยหาเสียงให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นในนามพรรคการเมือง เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายอย่างแน่นอน” นายเทพไท กล่าว.-สำนักข่าวไทย