กรุงเทพฯ 25 ต.ค.- นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ แนะนายกฯ แสดงท่าทีให้ชัดสัญญาสภาจะแก้ไขรัฐธรรมนูญตามร่างประชาชน เชื่อเป็นทางออกประเทศ เตือนอย่าใช้ความรุนแรง ใครใช้คนนั้นแพ้
นายสุขุม นวลสกุล นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่ออภิปรายทั่วไปตามมาตรา 156 ว่า ในตอนแรกทุกฝ่ายมีความหวังว่าการประชุมดังกล่าวจะหาทางออกให้ประเทศได้ แต่เมื่อดูท่าทีของแต่ละฝ่ายที่จะเข้าสู่การประชุม ทั้ง ส.ว. ส.ส.ฝ่ายค้าน และรัฐบาล แล้ว เห็นว่าไม่น่าจะเป็นทางออกได้ เพราะญัตติที่รัฐบาลเสนออยู่ในวงจำกัด จึงเห็นว่าทางออกที่ง่ายที่สุดคือรัฐบาลต้องส่งสัญญาณให้ชัดในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้ส่งสัญญาณไปยัง ส.ว. และนายกรัฐมนตรีต้องรับปากต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญตามร่างของภาคประชาชน โดยให้มี ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง เชื่อว่าจะทำจะทำให้ประเทศมีทางออก และทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าทำตามข้อเรียกร้องบ้าง เพราะหากนายกรัฐมนตรีลาออกตอนนี้ ยังต้องใช้กติกาเดิม ดังนั้น ต้องแก้กติกาใหม่ก่อนแล้วค่อยลาออก ขณะเดียวกัน รัฐบาลควรต้องใช้หลักรัฐศาสตร์แก้ไขปัญหา โดยผ่อนปรนและปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายด้วยการล่วงละเมิดคนอื่น ซึ่งหากปล่อยตัวแกนนำ และรัฐบาลมีความชัดเจนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วยังมีการชุมนุมต่อ ผู้ชุมนุมจะถูกมองว่าดื้อดึง
“นายกฯ มีท่าทีหรือยังว่าจะยอมให้แก้ เพราะฝ่ายค้านหรือฝ่ายเรียกร้องตั้งความหวังไว้ว่านายกฯ สามารถควบคุม ส.ว.ได้ เพราะวันนี้ท่าทีของประธานวุฒิสภาชวนให้รู้สึกว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นทางตัน แต่เท่าที่ดูการออกมาพูดของ ส.ว.เขาก็มีความเชื่อว่าถ้านายกฯออกปาก เพราะตั้งมากับมือ จะไม่ฟังกันบ้างเลยหรือไร แต่ท่านนายกฯ ยังไม่มีจุดนี้ เลย สมมติว่าในการประชุมรัฐสภาคราวนี้ท่านนายกฯ รับปากว่าจะพยายาม อยากให้มีการแก้ แล้วไปเริ่มต้นกันใหม่ ถ้าแก้รัฐธรรมนูญเสร็จ ก็จะมีทางออกบ้าง แต่วันนี้ฝ่ายเรียกร้องไม่เห็นทางออกจากสิ่งที่เรียกร้องได้สักข้อ ดังนั้น หากนายกรัฐมนตรีทำรัฐธรรมนูญใหม่แล้วลาออก จะสง่างาม” นายสุขุม กล่าว
สำหรับกรณีที่มีกลุ่มคนเสื้อเหลืองรักสถาบันออกมารวมตัวกันตามต่างจังหวัด จะทำให้เกิดการปะทะกันหรือไม่นั้น นายสุขุมกล่าวว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเผชิญหน้ากัน และมีการใช้อารมณ์กัน อาจทำให้เกิดการปะทะกันได้ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น แต่เห็นว่าใครก็ตามที่ใช้ความรุนแรงจะแพ้ตั้งแต่ต้น เพราะคนไม่สนับสนุนความรุนแรง
นายสุขุม กล่าวด้วยว่า แม้จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ปัญหาความขัดแย้งประเทศก็ยังไม่จบเสียทีเดียว เพราะหากมีการตั้ง ส.ส.ร. ก็เชื่อว่าจะมีความเคลื่อนไหวให้ ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญไปในแนวทางที่ประชาชนต้องการ จึงเห็นว่าการเมืองไม่มีวันจบเรื่องความขัดแย้ง โดยเฉพาะในความขัดแย้งที่ 2 ฝ่ายมีกำลังไล่เลี่ยกัน ดังนั้น สิ่งสำคัญคือจะต้องระมัดระวังไม่ให้มีความขัดแย้งแบบรุนแรง โดยต้องเรียนรู้การอยู่กันอยู่ความคิดต่าง.-สำนักข่าวไทย