หวังลดขั้นตอน-ประหยัดงบทำประชามติ

รัฐสภา 22 ม.ค.- “ชูศักดิ์” ยกทีมสส.เพื่อไทย แจงเหตุผลเสนอแก้ รธน.256 หวังลดขั้นตอน – ประหยัดงบทำประชามติ เปิดช่องให้ศาล รธน. วินิจฉัย ว่า ทำได้หรือไม่


นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมสส.พรรคเพื่อไทย แถลงชี้แจงกรณีส.ส.เพื่อไทย 122 คนยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม มาตรา 256 ว่า เพื่อหาข้อยุติว่าควรจะทำประชามติกี่ครั้ง เนื่องจากคณะกรรมการที่รัฐบาลแต่งตั้งขึ้นตามนโยบายในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้มีการประชุมกันและมีข้อเสนอ ว่า ควรทำประชามติ 3 ครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาและงบประมาณพอสมควร ครั้งละ 3,000 กว่าล้านบาท ในขณะที่คณะทำงานของพรรคเพื่อไทยศึกษาเรื่องนี้มานานและเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่4/2564 ที่พวกตนมองว่าการที่ต้องถามประชามติของประชาชนก่อนว่าเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่นั้น สามารถทำได้โดยเสนอญาติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ไปก่อนและเมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวแล้วจึงถามประชามติประชาชนไปพร้อมกับการถามประชามติเรื่องเห็นควรให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

“หากเป็นเช่นนี้ก็สรุปได้ว่าจะต้องทำประชามติถามประชาชนเพียง 2 ครั้ง จะทำให้ย่อระยะเวลาและงบประมาณ ไม่ต้องสิ้นเปลืองเกินความจำเป็น อย่างไรก็ตาม คำตอบอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญว่าควรจะถามกี่ครั้ง ซึ่งอยู่ดี ๆ จะถามเลย ศาลจะไม่อธิบายรัฐธรรมนูญหรือตอบปัญหาข้อสงสัย เว้นแต่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นเรื่องอำนาจหน้าที่ ดังนั้นการเสนอร่างแก้ไขมาตรา 256 หากทางสำนักกฎหมายของสภา ฯ มองว่าไม่สามารถทำได้ จะทำให้เกิดข้อขัดแย้งที่สามารถส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ และหากศาลรัฐธรรมนูญตีความออกมาอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งหากถทำได้ก็จะทำให้ทำประชามติเพียงแค่ 2 ครั้ง ยืนยันไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่นเพียงแต่ต้องการจะหาข้อยุติในเรื่องนี้” นายชูศักดิ์ กล่าว


ส่วนเรื่องของกฎหมายประชามติ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า คณะทำงานของพรรค พูดคุยกันแล้วและมีมติว่าจะขอแก้ไขกฎหมายประชามติด้วย ขณะนี้ยกร่างเสร็จแล้วแก้ให้ใช้กฎหมายธรรมดาแต่มีเงื่อนไขว่าเสียงประชามติต้องไม่ต่ำกว่าเสียงประสงค์ไม่ลงคะแนน และเสนอว่าการประชามติอาจทำไปพร้อม ๆ กับการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติหรือระดับท้องถิ่นได้ เพื่อประหยัดงบประมาณ ซึ่งการทำประชามติในอดีตเป็นการลงคะแนนโดยใช้บัตรว่าเห็นชอบหรือไม่ แต่คิดว่าขณะนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าแล้วขอให้นำเทคโนโลยีมาใช้ โดยอาจใช้วิธีการทางไปรษณีย์ต่าง ๆ ได้ ซึ่งขณะนี้ ยกร่างเสร็จแล้วจะเสนอให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงชื่อและเสนอ ร่างกฎหมายต่อไป.-312.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ