อธิบดี พช. มอบประกาศเกียรติคุณ ขรก.เกษียณอายุ

24 ก.ย. – อธิบดี พช. มอบประกาศเกียรติคุณข้าราชการเกษียณอายุราชการ และเชิดชูเกียรติบุคลากรดีเด่น พร้อมน้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ขับเคลื่อนงานบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน สู่เป้าหมายพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนมีความสุขอย่างยั่งยืน


เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2563 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณ และเข็มเชิดชูเกียรติ ข้าราชการที่ปฏิบัติงานครบเกษียณอายุราชการ ประจำปี พ.ศ.2563 จำนวน 23 รางวัล, ข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2562 (ครุฑทองคำ) จำนวน 2 รางวัล, ข้าราชการ ลูกจ้างประจำและพนักงานราชการดีเด่น ประจำปี 2563 (ทองคำ) จำนวน 10 รางวัล, หน่วยงานพัฒนาชุมชนใสสะอาด “ต้นแบบ” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จำนวน 8 รางวัล, หน่วยงานพัฒนาชุมชนใสสะอาดดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จำนวน 17 รางวัล, บุคคลต้นแบบ “การน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” จำนวน 16 รางวัล และรางวัลประกวดภาพถ่ายปฏิบัติการ 90 วัน “ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” จำนวน 3 รางวัล โดยมีคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมการพัฒนาชุมชน เข้าร่วมพิธี ณ โรงแรมอิงธารรีสอร์ท ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก

ในโอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุม กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ผู้บริหารกับการคิดวิเคราะห์และการเสริมสร้างพลังเครือข่ายเชิงยุทธศาสตร์” โดยน้อมนำพระราชดำรัสของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระราชดำรัสว่า “เกษียณอายุราชการได้ แต่อย่าเกษียณจากการทำงาน” โดยกล่าวฝากข้าราชการทุกท่านที่ครบเกษียณอายุราชการในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นบุคลากรที่มีคุณูปการต่อการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนจนประสบความสำเร็จ เมื่อทุกท่านพ้นจากตำแหน่งหน้าที่แล้วจึงหวังเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่านจะช่วยเป็นแรงหนุนและให้กำลังใจพี่น้องกรมการพัฒนาชุมชนที่จะต้องปฏิบัติภารกิจเพื่อพี่น้องประชาชน และประเทศชาติต่อไป


อธิบดีกรมการพัฒนาชุม กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนให้ความสำคัญกับบุคลากรทุกตำแหน่ง ต่างเป็นกลไกในการสานประโยชน์สู่ประชาชน ขอฝากหลักการที่จะสร้างหมุดหมายของความสำเร็จในการทำงานทุกประการให้สำเร็จลุล่วง คือ ต้องมีใจที่มุ่งมั่นปรารถนาในการสร้างคุณประโยชน์อย่างแรงกล้า ตลอดจนมีความรู้และทัศนคติที่ดีจะนำสู่ความสำเร็จในภารกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเพื่อพี่น้องประชาชน อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ การดำเนินการเชิงมวลชนสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์ในภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชนทุกมิติ ต้องนำสู่การรับรู้ของสังคม ให้น้ำหนักกับทุกภารกิจเด่นชัดเท่ากัน กลไกขับเคลื่อนที่สำคัญในส่วนนี้ต้องเริ่มที่บุคลากร หน่วยงานทุกภาคส่วนของกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกันติดตาม เผยแพร่ข่าวสารสู่วงกว้าง และสำรวจทัศนคติจากคนภายนอกองค์กร อาศัยภาคีเครือข่ายความร่วมมือที่ดีในการร่วมกันกระจายในทุกสื่อ ทุกช่องทาง เพราะการประชาสัมพันธ์ที่ดี เป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่นอกเหนือจากการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในใจคนแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสในการส่งเสริม พัฒนาบุคลากรของกรมการพัฒนาชุมชน ยกระดับศักยภาพในการเป็นนักสื่อสารสร้างสรรค์องค์การอย่างเต็มประสิทธิภาพ และเอื้อต่อการสร้างความไว้วางใจในการร่วมมือเป็นทีมกับทุกภาคส่วน ซึ่งการได้มาซึ่งทีมที่ดีนั้น ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชนจะต้องเป็นดังแม่เหล็ก ที่สามารถดึงดูด ยึดโยงความร่วมมือจากภาคีได้ทุกขณะ ไม่ห่างเหินหรือละเลยมวลชน

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ได้น้อมนำหลักทฤษฎีกว่า 40 ทฤษฎี ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนชน โดยท่านพัฒนาการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ โดยชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ในการดำเนินโครงการ เช่น การปลูกป่า 3 อย่าง แต่ให้ประโยชน์ 4 อย่าง หลุมขนมครก การห่มดิน การดูทิศทางดิน น้ำ ลม ไฟ รวมถึงการกักเก็บน้ำและการบำบัดน้ำต่างๆ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อ พัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล และเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

ดังนั้นสิ่งที่สำคัญในการดำเนินโครงการต้องเริ่มจากการพัฒนาคนเป็นอันดับแรก โดยการสร้างความรู้ความเข้าใจในหลักทฤษฎีใหม่และสามารถนำองค์ความรู้มาแปลงสู่การปฏิบัติได้ โดยการให้ฝึกออกแบบพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล โดยใช้ทฤษฎีการดูทิศทางดิน น้ำ ลม ไฟ ตามบริบทในแต่ละสภาพพื้นที่ จากนั้นเมื่อออกแบบพื้นที่เสร็จ ต้องลงมือปฏิบัติในพื้นที่จริง โดยมีศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนทุกแห่งเป็นพื้นที่ต้นแบบเป็นสถานที่เรียนรู้ และฝึกปฏิบัติ โดยศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนต้องฝึกอบรมให้ความรู้กับบุคลากรของกรมให้เป็น นักวิจัย เช่น การเก็บฐานข้อมูลต่างๆ ก่อนปฏิบัติ ในขณะปฏิบัติ และข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถเป็นข้อมูลเชิงวิชาการที่สำคัญของประเทศ และทำให้เกิดความหนักแน่นในการสร้างความมั่นใจการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้เต็มพื้นที่ทั่วประเทศอีกด้วย


นอกจากนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี กรมการพัฒนาชุมชน ในปี พ.ศ.2565 กรมการพัฒนาชุมชนจะกลายเป็น หนึ่งเดียวในโลก ที่จะเป็นศูนย์เรียนรู้รวมหลักทฤษฎีมากกว่า 40 ทฤษฎี รวมเป็นหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” บนพื้นที่กว่า 700 ไร่ ในจังหวัดนครนายก โดยมีสถาบันการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนร่วมกับภาคการศึกษา โดยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อจัดตั้งมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้หลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์แห่งแรกของโลกต่อไป

“กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ขอขอบคุณทุกท่าน ที่ได้สร้างคุณงามความดีให้กับกรมการพัฒนาชุมชนและประชาชนในหมู่บ้าน ตำบลมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน และขอแสดงความชื่นชมยินดีกับข้าราชการดีเด่นทุกท่าน ที่ได้ช่วยกันปฏิบัติงานตามภารกิจหน้าที่ ตามที่ได้รับมอบหมายจนประสบผลสำเร็จ เป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา การประกาศเกียรติคุณในวันนี้ จึงถือได้ว่าท่านเป็นผู้หนึ่งที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับกรมการพัฒนาชุมชนจนเป็นที่รู้จักยอมรับของบุคคลทั่วไป และหน่วยงานต่างๆ จึงขอให้ผลของการปฏิบัติดีนี้ครั้งนี้ขยายผลต่อไป” อธิบดี พช. กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]