“เศรษฐพงค์” ชี้ต้องทำแพลตฟอร์มป้องกันแฮกเกอร์

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – “เศรษฐพงค์” ชี้ถึงเวลาทำแพลตฟอร์มป้องกันแฮกเกอร์จริงจัง แนะหน่วยงานแชร์ข้อมูลร่วมกันสร้าง Cyber Security ป้องกันเหมือนกรณีภัยพิบัติ ระบุรัฐต้องให้ความสำคัญสร้างระบบ-ประสานความร่วมมือเอกชน


พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศไทยปัจจุบันพบว่าการแฮกข้อมูลโดยแฮกเกอร์เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งหลายครั้งส่งผลเสียหายทั้งด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากแฮกเกอร์จะพุ่งเป้าไปที่ข้อมูลสำคัญๆ ทั้งของภาคธุรกิจและสังคม รวมถึงหน่วยงานราชการ ซึ่งประเทศไทยมี พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ.2562 กฎหมายฉบับนี้ถูกบังคับใช้กับหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานเอกชนซึ่งมีภารกิจ หรือให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศรวมทั้งสิ้น 8 กลุ่ม ได้แก่ ด้านความมั่นคงของรัฐ, ด้านบริการภาครัฐที่สำคัญ, ด้านการเงินการธนาคาร, ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม, ด้านการขนส่งและโลจิสติกส์, ด้านพลังงานและสาธารณูปโภค, ด้านสาธารณสุข และด้านอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการฯ ประกาศกำหนดเพิ่มเติม ซึ่งบทเรียนจากการถูกแฮกต้องเรียนรู้สู่การปรับปรุงในอนาคต โดยจะต้องมีการแชร์ข้อมูลระหว่างกันเพื่อสร้าง Cyber Security และการแชร์ข้อมูลระหว่างกัน เป็นเรื่องที่ดีในการเตรียมพร้อม แต่ไม่ใช่ว่าป้องกันได้ 100% ซึ่งเราอาจจะต้องนำวิธีการป้องกันภัยธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ เช่น มีการเตรียมความพร้อมในการระวังป้องกัน และเมื่อถูกโจมตีจะต้องมีการแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือ ซึ่งจะลดผลเสียหายได้

พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวอีกว่า วันนี้ประเทศไทยควรมีการบังคับใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ อย่างจริงจัง รวมทั้งการสร้างแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีในการป้องกันแฮกเกอร์อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การ Backup และการกระจายข้อมูลไปยังสถานีย่อยเป็นเรื่องที่ควรทำ เพื่อลดความเสี่ยง การเตรียมความพร้อมไว้เป็นเรื่องที่ดีทำการ Backup ข้อมูลตามหลักวิชาการ และหน่วยงานต่างๆควรจะทำ Security PenTest จะทำให้เราทราบจุดอ่อนและปิดช่องโหว่นั้นได้ แต่วันนี้เราได้มีการประเมินหน่วยงานต่าง ๆ หรือไม่ ว่ามีความพร้อมในการรับมือหรือไม่ การเตรียมพร้อมไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นการร่วมมือกันป้องกัน ในส่วนของรัฐบาลจะต้องมีนโยบายในการส่งเสริมให้สร้างระบบต่าง ๆ ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือกัน เช่น หน่วยงานใหญ่ ๆ อาจจะเป็นเป้าแรก ซึ่งเมื่อโดนแล้วต้องเตือนหน่วยงานอื่น ๆ เป็นการสร้างแพลตฟอร์มในการป้องกันร่วมกัน แบบนี้การป้องกันภัยถึงจะมีประสิทธิภาพและยั่งยืน นอกจากนี้ควรทำประกันวินาศภัย ในความเสียหายด้าน Cyber ด้วย ซึ่งขณะนี้เริ่มมีบริษัทประกันในประเทศไทยรับทำแล้ว


“วันนี้เทคโนโลยีต่างๆ พัฒนาไปไกล เราก็ต้องตามเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้ทัน อย่างเรื่องของโลกไซเบอร์นั้น ที่ผ่านมาเราก็พบเจอปัญหาจากแฮกเกอร์มากมาย ซึ่งในส่วนของข้อมูลต่าง ๆ เราจะต้องมีการวางระบบป้องกันไว้ด้วย ถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานต่างๆของรัฐจะต้องร่วมมือกันในการวางแพลตฟอร์มเพื่อป้องกันการโจมตีจากโลกไซเบอร์อย่างเป็นรูปธรรม” พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว