ทำเนียบฯ 10 ก.ย.- “อนุชา” ดัน ศูนย์ราชการสะดวกเป็นวาระแห่งชาติ เตรียมหารือแนวทางการตั้งรางวัล เพื่อเป็นพลังผลักดันการทำงานของข้าราชการ สนองประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ตามนโยบาย สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย เชื่อต้องสร้างขวัญกำลังใจให้คนทำงาน
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการอำนวยการศูนย์ราชการสะดวก ครั้งที่ 2/2563 เพื่อพิจารณาให้การรับรองมาตรฐาน GECC ประจำปี พ.ศ.2563 ซึ่งมีหน่วยงานของรัฐสมัครขอรับการรับรองมาตรฐานดังกล่าว จำนวน 1,461 ศูนย์ ผ่านการตรวจคัดกรองเอกสารและลงพื้นที่เพื่อตรวจประเมินจุดบริการประชาชน จำนวน 455 ศูนย์ โดยจำแนกเป็นการรับรองในระดับเป็นเลิศ (สีทอง) จำนวน 5 ศูนย์ ระดับก้าวหน้า (สีเงิน) จำนวน 95 ศูนย์ และระดับพื้นฐาน (สีฟ้า) จำนวน 355 ศูนย์
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์ราชการสะดวกเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2558 เป็นเรื่องสำคัญเป็นวาระแห่งชาติเพราะหน่วยงานราชการ 70,000 กว่าศูนย์ในประเทศ ต้องเป็นศูนย์ที่พี่น้องประชาชนเข้าถึงได้สะดวก รวดเร็ว และตอบสนองต่อความต้องการ เป็นกลไกสำคัญของรัฐบาลที่ชี้วัดถึงความพึงพอใจของพี่น้องประชาชน รวมถึงเป็นดัชนีที่นำประเทศสู่ความเจริญทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม เป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนทุกมิติของรัฐบาล ดังนั้น ต้องดำเนินการเชิงรุกให้เป็นเรื่องด่วน และผลักดันให้ประสบความสำเร็จในรัฐบาลนี้ พร้อมกับเตรียมเสนอตั้งรางวัลเพื่อเป็นพลังผลักดันในการทำงานของข้าราชการ ซึ่งข้าราชการเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนงานต่าง ๆ และเป็นฟันเฟืองหลักที่แบกรับภาระพี่น้องประชาชนไว้ จึงจำเป็นต้องมีการสนับสนุนเพื่อให้มีขวัญกำลังใจสามารถทำหน้าที่ตอบสนองพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่เดินหน้าสู่การเป็นศูนย์ราชการสะดวกอย่างแท้จริง
นายอนุชา กล่าวว่า สำหรับเกณฑ์การพิจารณาของคณะกรรมการฯ ได้กำหนดเป็นมาตรฐานในการให้บริการประชาชน 3 ด้าน ได้แก่ เกณฑ์ด้านกายภาพ เกณฑ์ด้านคุณภาพ และเกณฑ์ด้านผลลัพธ์ ซึ่งหากผ่านหลักเกณฑ์ดังกล่าว ก็จะได้รับโล่และตราสัญลักษณ์ศูนย์ราชการสะดวกที่แสดงถึงการพัฒนาการให้บริการประชาชน ที่ “สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย” เบ็ดเสร็จได้ ณ จุดเดียว โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559-2562 คณะกรรมการฯ ได้ให้การรับรองมาตรฐาน GECC แก่หน่วยงานของรัฐไปแล้ว จำนวน 1,008 ศูนย์ และมาตรฐานดังกล่าวจะมีอายุการรับรอง 3 ปีนับจากปีที่ได้รับการรับรองนั้น ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานที่อยู่ระหว่างการรับรองจำนวน 725 ศูนย์ มีทั้งหน่วยงานราชการในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค ศูนย์สาธารณสุข สำนักงานขนส่งจังหวัด ธนาคาร (ธ.ก.ส.) โรงพยาบาล สำนักงานที่ดิน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด สำนักงานสรรพสามิตจังหวัด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด
ทั้งนี้เพื่อการให้บริการที่ดีและประโยชน์สุขแก่ประชาชน สามารถติดตามหรือสอบถามข้อมูลข่าวสารได้ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือผ่านช่องทาง Online ที่ Facebook คณะกรรมการอำนวยการศูนย์ราชการสะดวก
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการมอบนโยบายในวันนี้ได้เน้นย้ำเรื่องการทำงานร่วมกับภาคเอกชน ให้เกิดความราบรื่นและมีทัศนคติที่ตรงกัน รวมถึงเน้นย้ำเรื่องความโปร่งใส ส่วนความเป็นข้าราชการที่ดีนั้นเชื่อว่าทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว ทั้งนี้จะไม่มีการเพ่งโทษเรื่องที่ทำผิดพลาดมากนักเพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยดี และเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้คนทำงาน.-สำนักข่าวไทย