ทบ.เดินหน้าบริหารงานที่พักสวัสดิการเชิงธุรกิจส่งเงินเข้าคลัง

กรุงเทพฯ 28 ส.ค.-ผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานเปิดสถานพักฟื้นสวนสนประดิพัทธ์ หลังเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารงานสวัสดิการเชิงธุรกิจ ระบุเป็นจุดเริ่มพัฒนาบุคลากร ย้ำโปร่งใส ครบ 1 ปีส่งเงินกรมธนารักษ์


พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะประธานกรรมการสวัสดิการกองทัพบก เป็นประธานพิธีเปิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารงานของสถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก สวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากสวัสดิการภายในเป็นสวัสดิการในเชิงธุรกิจ จากที่จัดทำบันทึกข้อตกลงโครงการการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ ร่วมกับกรมธนารักษ์ เมื่อวันที่ 17 กุฝภาพันธ์ที่ผ่านมา

การจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจกรณีพิเศษข้างต้น กองทัพบกมอบหมายให้คณะบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการโรงแรมเข้ามาบริหารงานกิจการดังกล่าว ภายใต้กำกับดูแลของคณะกรรมการสวัสดิการกองทัพบกและเงื่อนไข เพื่อให้กำลังพลและครอบครัวที่มาใช้บริการได้รับสิทธิในการใช้บริการไม่น้อยกว่าหรือมากกว่าเดิม ซึ่งคณะบุคคลที่เข้าบริหารงานจะได้รับค่าตอบแทน ในรูปแบบค่าจ้างการบริหารงานจากกองทัพบก ตามผลงานการดำเนินกิจการ


ทั้งนี้ คณะบุคคล ที่เข้ามาบริหารได้จัดทำแผนในการซ่อมบำรุง รูปแบบการปรับปรุง Renovate การพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร และมาตรฐานในการให้บริการ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งการลงนามในสัญญาเช่าและค่าธรรมเนียม ตามที่กรมธนารักษ์กำหนดกับสำนักงานธนารักษ์พื้นที่นั้น มี 4 กิจการ ได้แก่ สถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก สวนสนประดิพัทธ์ แห่งที่ 1 สถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก สวนสนประดิพัทธ์ แห่งที่ 2 ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก สวนสนประดิพัทธ์ และสถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) โดยระยะเวลาของสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 31 มีนาคม 2566

ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีหลังร่วมมือกับกระทรวงการคลัง และตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดโควิด – 19 ได้ปรับปรุงสถานที่แห่งนี้ทั้งตัวโรงแรมและการพัฒนาบุคลากร ทุกอย่างถูกต้องโปร่งใส ทำให้กำลังพลได้รับสิทธิประโยชน์ ที่ดีกว่าเดิมเหมือนสามารถมาใช้บริการได้ และเมื่อครบ 1 ปี จะนำเงินส่งกรมธรารักษ์ตามระเบียบ
ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารบกมอบเงินบำรุงขวัญแก่ผู้ที่ปฏิบัติงานที่สวนสนประดิพัทธ์เป็นเวลามากกว่า 20 ปี และกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการสนามด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง