สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคารเทเวศร์ 26 สค. –“วิชา” เตรียมสรุปข้อพิรุธคดีบอสส่งนายกฯ 31 ส.ค. นี้ แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดจริยธรรมรุนแรง เผยพบสิ่งผิดปกติคดี “จารุชาติ” ถูกเพื่อนทำลายหลักฐานในมือถือ
นายวิชา มหาคุณ ประธาน คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา (บอส) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า คณะกรรมการฯ ประชุมเพื่อเตรียมจัดทำรายงานฉบับเต็ม รายงานต่อนายกรัฐมนตรี วันที่ 30 ส.ค.นี้ ตามกรอบ 30 วัน และการประชุมวันนี้มีบางประเด็นยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมีเวลาน้อย เช่น ยังไม่สามารถระบุความผิดถึงตัวบุคคลได้ แต่ในรายงานสามารถระบุรายชื่อบุคคลซึ่งมีพฤติกรรมบกพร่องได้ ซึ่งจะมีให้หน่วยที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพิ่มเติม ขณะเดียวกันจะต้องดูอำนาจผู้บังคับบัญชาด้วยว่ามีส่วนรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งในเบื้องต้น นายกรัฐมนตรี ก็เห็นด้วยกับรายงาน เรื่องการเป็นหัวหน้าองค์กรสูงสุด ที่จะต้องรับผิดชอบหากมีข้อบกพร่อง ซึ่งสั่งการแล้วปัดความรับผิดชอบไม่ได้ ดังนั้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคดีนี้แม้ไม่ผิดในทางกฎหมายแต่อาจผิดจริยธรรม ส่วนจะรุนแรงถึงระดับนายพลหรือไม่ ยังไม่ได้ลงรายละเอียด ดังนั้นคดีนี้ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจว่ามีใครบ้างที่จะต้องรับผิดชอบ เพราะการกระทำส่อแสดงให้เห็นพฤติกรรมและไม่ขอตอบว่าบุคคลที่เข้าข่ายผิดฯ จะอยู่ในส่วนของตำรวจหรืออัยการ
นายวิชา กล่าวว่า สิ่งที่เป็นประโยชน์คือความเห็นจากอดีตอัยการสูงสุด 4 ท่าน ที่ช่วยตรวจสอบข้อบกพร่องในคดี โดยลงความเห็นพบจุดบอดชัดเจน ดังนั้นรายละเอียดต้องศึกษา ทางด้านกฎหมายเพิ่มเติม ซึ่งเหลือเวลาอีก 5 วัน แต่รายงานฉบับนี้ ยังไม่ลงถึงการปฏิรูปกฎหมาย เพราะจะเสนอต่อเวลาอีก 30 วัน จึงขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณา
นายวิชา กล่าวว่า ส่วนหมายแดงที่กองการต่างประเทศถอนออก กระทั่งปัจจุบันไม่มีหมายแดงแล้ว เรื่องนี้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อจะต้องประสานไปยังตำรวจสากลอีกครั้ง เพราะมีการออกหมายจับใน 3 ข้อหาแล้ว ส่วนคณะกรรมการจะสอบถามอีกครั้งด้วยว่าดำเนินการการขอหมายแดงหรือยัง สำหรับประเด็นนี้ นั้นยอมรับว่า มาจากการทำข้อมูลของคณะกรรมการสางคดี ชุดนี้ด้วยส่วนหนึ่ง ที่ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้ข้อมูล สำหรับประเด็นผู้ถอนหมายแดง พบข้ออ้างว่าเป็นไปตามวิธีปฏิบัติ เมื่ออัยการไม่สั่งฟ้อง กระบวนการถอนหมายแดงจึงเกิดขึ้น ทั้งที่รู้ว่าหมายจับในประเทศไทยยังมีอยู่ และยังไม่ถูกยกเลิก กลายเป็นว่ากองการต่างประเทศเชื่อเจ้าหน้าที่สอบสวน สน.ทองหล่อ มากกว่า
นายวิชา กล่าวว่า ความคืบหน้าการเสียชีวิตของ นายจารุชาติ มาดทอง พยานปากสำคัญของคดีนี้ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งแยกสอบเป็นสองกรณี คือ กรณีที่ 1 การเกิดอุบัติเหตุ ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่กรณีที่ 2 พบความผิดปกติในพฤติกรรมของเพื่อนและคนรอบข้างจากโทรศัพท์มือถือที่ถูกทำลาย จึงเป็นข้อสงสัยที่ตำรวจกำลังสอบหาข้อเท็จจริง รวมทั้งเส้นทางการเงินด้วย
ส่วนที่คณะกรรมการได้ดำเนินการสอบเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีทั้งหมดนั้น นายวิชา กล่าวว่า ว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) .-สำนักข่าวไทย