กรุงเทพฯ 23ส.ค.- กองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ 3 ยังคงเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 3 จังหวัด น่าน อุตรดิตถ์ แพร่ ภาพรวมสถานการณ์น้ำได้ลดระดับลงเข้าสู่การฟื้นฟูหากไม่มีฝนตก จะเข้าสู่ภาวะปกติ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่เกิดฝนตกหนัก จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนฮีโกส ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ ในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ ถึง 9 จังหวัด 26 อำเภอ โดยเฉพาะที่จังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ แพร่นั้น กองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ 3 ได้ระดมกำลังพลจำนวน 600 นาย ชุดแพทย์เคลื่อนที่ รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่และขนาดเล็ก 50 คัน รถครัวสนาม รถพยาบาล กระจายกำลังออกช่วยเหลือประชาชนร่วมกับส่วนราชการ ส่วนใหญ่เป็นการเข้าอพยพคนและสิ่งของไปในพื้นที่ปลอดภัย ตั้งแต่ 21 สิงหาคม 63 จนถึงปัจจุบัน การช่วยเหลือก็ยังคงดำรงอยู่
รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ที่จังหวัดน่านเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ที่ อ.เวียงสา ซึ่ง มณฑลทหารบกที่ 38 และหน่วยกู้ภัยเข้าช่วยอพยพขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง นำเรือท้องแบนออกรับประชาชนที่ติดค้างตามถนน รวมถึงเข้าสำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตร ขณะนี้น้ำได้ลดลงเกือบสู่ภาวะปกติแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟูทำความสะอาด เก็บซากหักพัง และซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย ส่วนที่ อ.เมืองน่าน หลังน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้าน และดินสไลด์ขวางถนน กรมทหารม้าที่ 2 เข้าทำความสะอาดเส้นทางและบ้านเรือนประชาชนทันที เพื่อให้สามารถเข้าพักอาศัยได้โดยเร็ว
จังหวัดอุตรดิตถ์ ฝนตกหนักแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนใน ต.น้ำหมัน อ.ท่าปลา ทางกรมทหารม้าที่ 2 ได้ให้ความช่วยเหลือทันที ด้วยการขนย้ายสิ่งของจากบ้านเรือนขึ้นที่สูง และจัดกำลังช่วยนำพระสงฆ์ วัดนาต้นโพธิ์ ออกจากพื้นที่น้ำไหลหลาก
จังหวัดแพร่ เขตเทศบาลเมืองแพร่ ได้รับผลกระทบจากเหตุแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่ง มณฑลทหารบกที่ 35 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ บรรจุกระสอบทราบแจกจ่ายให้ประชาชน และเตรียมความพร้อม สูบน้ำออกจากตัวเมือง ส่วนที่ อ.เด่นชัย กำลังพลและส่วนราชการ เข้าขนสิ่งของเครื่องใช้ที่มีค่าขึ้นไว้บนที่สูงป้องกันไฟฟ้าและการสูญหาย และที่ อ.ลอง ส่วนราชการยังคงเข้าสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร
นอกจากนี้ ในพื้นที่จังหวัดลำปาง พะเยา และจังหวัดพิจิตร หน่วยทหารประจำพื้นที่ ยังคงเข้าช่วยเหลือด้วยการเคลื่อนย้ายสิ่งของ ทำความสะอาดพื้นที่ เปิดทางน้ำจากสิ่งกีดขวาง และตรวจสอบความปลอดภัยบนเส้นทางสัญจรหลัก เพื่อให้ประชาชนกลับใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ในภาพรวมสถานการณ์น้ำได้ลดระดับลงเข้าสู่การฟื้นฟูหากไม่มีฝนตก จะเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก กำชับทุกหน่วยให้ดำเนินตามนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ให้หน่วยทหารจัดกำลังอยู่เป็นเพื่อนประชาชนโดยเฉพาะในเวลากลางคืนในพื้นที่ประสบภัย ควบคู่ไปกับการแจ้งเตือนและลงพื้นที่เตรียมป้องกันก่อนเกิดเหตุ เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์และให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด .-สำนักข่าวไทย