ทำเนียบฯ 19 ส.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เห็นชอบประกันรายได้ชาวสวนปาล์มอีก 3 เดือน ตั้งเป้าส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ 3 แสนตัน ภายใน ม.ค.64 พร้อมส่งเสริมไบโอดีเซลรณรงค์ให้ใช้ B10
พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (คนป.) ครั้งที่ 2/2563 โดยที่ประชุมรับทราบสถานการณ์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในภาพรวม ทั้งด้านการผลิต, ด้านการตลาด และด้านพลังงานทดแทน อยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และรับทราบความคืบหน้าโครงการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณน้ำมันปาล์ม เพื่อบริหารจัดการและควบคุมสต๊อกน้ำมันปาล์ม ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการให้ทันปีงบ 63
พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรสวนปาล์มน้ำมันปี 2562-2563 โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จ่ายเงินชดเชยแล้วตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562-14 สิงหาคม 2563 รวม 9 งวด จำนวน 375,202 ครัวเรือน เป็นวงเงิน 6,729.57 ล้านบาท จากนั้น คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2563-2564 เพิ่มอีก 3 เดือน (ก.ย.,ต.ค.,พ.ย.63) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดราคาเป้าหมายผลปาล์มทะลาย (อัตราน้ำมัน18% ) ณ หน้าโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ก.ก.ละ 4 บาท (เท่ากับโครงการปี 62-63) และเห็นชอบโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกินออกไปต่างประเทศ และดึงราคาผลปาล์มให้สูงขึ้น โดยตั้งเป้าส่งออก 300,000 ตันน้ำมันปาล์มดิบ ภายในเดือนมกราคม 2564
พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ คนป.ให้กำกับ ติดตาม ขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เน้นย้ำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงพาณิชย์ , กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการตามแผนงานโครงการที่ผ่านความเห็นชอบแล้วภายใต้ คนป.ตามกรอบเวลา พร้อมทั้งมีการประเมินผลงาน เพื่อแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเร่งรัดให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ทั้งการส่งเสริมการผลิต การตลาด และการช่วยเหลือเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้รณรงค์ขอให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน หันมาใช้น้ำมันดีเซลB10 ให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมมาตรการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มให้ได้อย่างยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย