ทำเนียบรัฐบาล 17 ส.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมปคม.-ปกค. กำชับ ตร.-ทรรง.บูรณาการงานแก้ปัญหาค้ามนุษย์ต้องหมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าขยับจาก Tier 2 เป็น Tier 1 ในปีหน้า
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) และการประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) โดยที่ประชุมรับทราบผลการจัดระดับประเทศไทยในรายงานการค้ามนุษย์ของ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา (Tip Report) อยู่ในระดับ 2 (Tier 2) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เนื่องจากรัฐบาลไทยยังคงเพิ่มความพยายามในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมาย ด้านการคุ้มครองผู้เสียหาย และด้านการป้องกัน
ที่ประชุมรับทราบการดำเนินงานของปกค.ที่สำคัญ ได้แก่ การติดตามการบังคับคดีเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายและการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้เสียหายทางการค้ามนุษย์ และรับทราบผลการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ตั้งแต่ปี 2555 ถึงปัจจุบัน โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนหลายราย และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) สามารถยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดินได้แล้วจำนวน 41,671,199 บาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมปคม.เห็นชอบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการ อาเซียน-ออสเตรเลียเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ และเห็นชอบแต่งตั้งคณะทำงานร่วมว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ ไทย-สหรัฐอเมริกา(ฝ่ายไทย) ส่วนการประชุมปกค. ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าและพิจารณาเห็นชอบการดำเนินงานของกองทุนเพื่อการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ ให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป
พล.อ.ประวิตร ได้กำชับคณะกรรมการทั้งสองชุด รวมทั้งสั่งการกองทัพเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงาน เร่งขับเคลื่อนกลไกการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายให้ไทยอยู่ในลำดับ Tier 1 ให้ได้ในปี 2564 เพื่อให้การค้ามนุษย์หมดไปจากประเทศไทย โดยต้องบังคับใช้กฎหมายจริงจังกับคนเข้าเมืองและแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะแรงงานประมง เพื่อป้องกันการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐาน ช่วยลดปัญหาการค้ามนุษย์
“ให้เร่งรัดปรับแก้กฎหมายที่เป็นธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและประโยชน์แก่ผู้เสียหาย ให้ได้รับการเยียวยาจากการค้ามนุษย์ รวมถึงการสร้างการรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน แรงงาน เอกชนอย่างทั่วถึง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นรองรับการค้าการลงทุน เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูและขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป” พล.อ.ประวิตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย