นายกฯ ขอดูบริบทของประเทศก่อนจะเปลี่ยนแปลง

กรุงเทพฯ 17 ส.ค.- นายกฯ ขอ หากจะเปลี่ยนแปลงให้ดูบริบทของประเทศ และทำทีละขั้นตอน ขออดใจรอ คนไม่ดีเปิดหน้ามาเรื่อย ๆ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ยกกำลังสองการศึกษาไทย สู่ความเป็นเลิศ” (Thailand Education Eco-System) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปการศึกษาแนวทางใหม่ เตรียมพร้อมสร้างทุนมนุษย์ให้ประเทศมุ่งสู่ความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน เพิ่มศักยภาพนักเรียน ลดภาระครูและพัฒนาครูให้ทันต่อโลก ปลดล็อก ปรับเปลี่ยนและเปิดกว้าง เพื่อสร้างระบบนิเวศทางการศึกษาให้สมบูรณ์

นายกรัฐมนตรี ได้แสดงวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนการศึกษาไทย ว่า เรื่องการศึกษาเป็นความเป็นความตายของประเทศ เพราะอนาคตของประเทศเดินหน้าได้ด้วยการศึกษา สิ่งที่เกิดขึ้นกับการศึกษา เป็นสิ่งที่ตนคาดหวัง รัฐบาลมีหน้าที่แก้ข้อจำกัดและอุปสรรค เพื่อให้การศึกษาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งวิธีคิด หลักคิด และการเข้ามาของเทคโนโลยี ซึ่งหากไม่เตรียมความพร้อม จะทำให้เกิดปัญหากับเป้าหมายที่ต้องพัฒนาคนทุกมิติทุกช่วงวัย ขณะที่คนไทยจะต้องมีความพร้อม ทั้งร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจมีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และผู้อื่น ปรับวิธีคิดมีทักษะในการพัฒนาไปสู่การคิดเป็นทำเป็น


“สิ่งที่ต้องการ คือ ให้เด็กหาความรู้ในห้องสมุด ได้รับโจทย์แล้วค้นคว้าหาคำตอบ
ไปดูตลาด ชุมชน และภาคการเกษตร ไม่เช่นนั้น เขาจะเอาจากต่างประเทศมาเปรียบเทียบ ทั้งที่บริบทของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน การบ้านไม่จำเป็นต้องมีเยอะ ครู 6 คน สอนคนละชั่วโมง ให้การบ้าน 6 เล่ม แบบนี้ก็ไม่ไหว จึงต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้เขารู้ว่าเขาอยากโตขึ้นมาแล้วเป็นอะไร แล้วจะต้องเรียนรู้ในเรื่องใดบ้าง ซึ่งเรื่องพวกนี้เราไปบังคับเขาไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่ง ว่า หน้าที่ของรัฐบาล คือ การรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะต่างชาติ พร้อมที่จะสนับสนุนเรื่องการศึกษาไทย เพราะไทยมีจุดแข็ง อย่าให้ใครทำลายศักยภาพของไทยในด้านนี้ หากมีปัญหาก็แก้ไขไปตามขั้นตอน อย่าทำให้เกิดความเสียหาย การต่อต้านขัดขวางให้ล้มทั้งหมด จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ทุกวันนี้บ้านเมืองไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ปกติ เช่นเดียวกับทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ จึงขออย่าสร้างแรงกดดันให้กับประเทศ แผ่นดินนี้เป็นของคนไทยทุกคน จะเปลี่ยนแปลงอะไร ต้องคำนึงถึงบริบทของประเทศด้วย และตราบใดที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รักษาความสงบและเสถียรภาพให้ประเทศ ไม่เช่นนั้นจะกระทบกับเศรษฐกิจ ขณะนี้ต้องช่วยต่อลมหายใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ เปรียบเหมือนปลาทอง หากไม่ช่วย ก็จะหงายท้องตาย

“ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตย เรื่องประชาธิปไตย ผมเข้าไปยุ่งไม่ได้ วันนี้รัฐบาลต้องสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจ เราไม่ต้อง ไม่ทำลายประเทศ ปัญหาต้องแก้กันทีละขั้นตอนไม่ทำให้ประเทศเสียหาย ซึ่งสื่อมวลชนก็มีส่วนสำคัญในการนำเสนอข้อมูล ไม่ใช่จะเผยแพร่ข่าวแต่เพียงอย่างเดียว จะต้องช่วยรักษาเสถียรภาพให้กับรัฐบาลด้วย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดใดก็ตาม โดยจะต้องเผยแพร่ข้อมูลทั้งสองด้าน ต้องช่วยทำความเข้าใจ โดยเฉพาะใน Social Media เพราะขณะนี้ปัญหาที่ประเทศต้องเผชิญหน้ามีหลายด้าน ซึ่งน่ากลัวกว่าโควิด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ทุกอย่างที่ทำไว้ เพื่ออนาคตของลูกหลานและประเทศ ซึ่งเชื่อว่าคนในปัจจุบันหลายคนอาจจะอยู่ไม่ถึง ไม่มีใครที่ไม่ตาย บางครั้งก็คิดใคร่ครวญจนนอนไม่หลับ ต้องกินยานอนหลับ แต่กินมากก็จะดื้อยา ย้ำไม่โกรธเกลียดใคร ไม่เช่นนั้นจะเป็นบาป จึงให้อภัยทุกคน แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย และท้ายที่สุดคนไม่ดีก็จะเปิดหน้าออกมาเรื่อย ๆ สำหรับรัฐบาลนี้ที่อยู่มาได้ เพราะนายกรัฐมนตรีไม่มีเรื่องทุจริต อยู่มาตลอด 5 ปี พูดได้ 100% ว่าไม่มีเรื่องนี้แน่นอน

“มีชีวิตอยู่ ก็ทำความดีเสียบ้าง เหมือนอย่างบางคนอย่ามองอะไรไม่พ้นขากางเกงตัวเอง รัฐบาลรับฟังหลายด้าน เพราะนี่คือประชาธิปไตย เมื่อรับฟังมาแล้ว ก็เอาเวลามาคิดทำแต่เรื่องดี ๆ เรื่องปัญหาความขัดแย้งหลายประเทศก็เจอกันมา บาดเจ็บล้มตายเป็นล้าน แต่ก็จบในที่เดียว เขาเคยรบกันมาเยอะแล้ว ถ้าเราเป็นแบบนี้ ก็เข้าวัฏจักรเหมือนเดิม เหมือนตอนที่ทำให้ผมมายืนอยู่ตรงนี้ ทั้งที่ไม่อยากจะมาเป็น แต่ในเมื่อผมเข้ามาทำหน้าที่แล้ว ก็จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด รักษาเสถียรภาพของประเทศให้ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี