พท.ขอสังคมเปิดใจรับความเห็นต่างแก้ขัดแย้งร่วมกัน

กรุงเทพฯ 15 ส.ค.-หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแถลงการณ์ขอสังคมไทยเปิดใจฟังความเห็นต่าง ยุติขัดแย้ง หาทางออกร่วมกัน พรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 17 ส.ค.นี้ ดึงประชาชนร่วมสร้างกฎ กติกาใหม่


นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ออกแถลงการณ์ ระบุว่า สถานการณ์ของสังคมไทยขณะนี้กำลังต้องการสติปัญญาและเหตุผลในการพิจารณาปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศ สิ่งที่สำคัญคือสังคมควรเปิดใจรับฟังมุมมอง ความคิดเห็น ทัศนะที่แตกต่างและร่วมกันยืนยันว่าการประณามและการข่มขู่คุกคามความเห็นที่แตกต่าง ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ กลับมีแต่จะยิ่งทำให้ประเทศเดินหน้าไปสู่หนทางที่ตีบตัน ซึ่งไม่ส่งผลดีใด ๆ เลย

“สำหรับมุมมองและท่าทีของนักเรียน นักศึกษา เยาวชนที่เกิดขึ้นคือการสะท้อนความคิดเห็น สะท้อนความหวัง ซึ่งพวกเขาอยากจะเห็นอนาคตในประเทศที่เขาอยู่ แม้ว่าบางประเด็นที่นำเสนออาจก่อให้เกิดความไม่สบายใจในบางส่วนของสังคมก็ตาม ส่วนการแลกเปลี่ยนกับความเห็นที่แตกต่างอย่างสันติ และการเปิดใจรับฟังอย่างจริงใจเท่านั้น จึงจะนำไปสู่การสร้างทางออกของปัญหาและนำไปสู่การยุติข้อขัดแย้งต่าง ๆ ได้ในที่สุด อยากให้ทุกฝ่ายยึดมั่นตามหลักเหตุผลและร่วมกันสร้างพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัยเพื่อช่วยกันแสวงหาคำตอบว่าสิ่งใดคือ หนทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสังคมประชาธิปไตยในประเทศของเรา” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ


นายสมพงษ์ กล่าวว่า ช่วงเวลาปัจจุบัน เราต้องร่วมกันเรียกร้องอย่างจริงจัง ให้ทุกฝ่ายใช้เหตุผลและหลีกเลี่ยงอย่างเต็มที่กับความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะต่อเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ หากปล่อยให้เกิดการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะในรูปแบบใด รังแต่จะสร้างความแตกแยกและนำไปสู่การสูญเสียที่มากมายเกินคาดคิด ซึ่งจะทำให้ประเทศเผชิญกับวิกฤติหนักมากขึ้นไปอีก ทั้งนี้ รัฐบาล และกลไกของรัฐต้องยุติการมองความเห็นต่างเป็นศัตรู และถือเป็นภัยคุกคามที่จะต้องถูกกำจัดและจัดการ เพราะการกระทำเช่นนั้นรังแต่จะสร้างปัญหาและความกดดันทางสังคมที่ไม่รู้จบ นายกรัฐมนตรีควรทำให้ได้จริงตามที่ได้ประกาศไว้ว่าจะรับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ ผมอยากจะบอกว่าเมื่อท่านพูด คนจะฟัง เมื่อท่านทำคนจะเชื่อ

“วันที่ 17 สิงหาคมนี้ พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านจะร่วมกับเพื่อนสมาชิกในรัฐสภา ยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญและดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกันสร้างกฎ กติกาใหม่ เพื่อให้เกิดสมดุลของความต้องการของทุกภาคส่วนของสังคม อยากให้ทุกฝ่าย ช่วยกันสร้างทางเลือกและทางออกให้สังคมไทยร่วมกัน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิสสิ้นพระชนม์

ทั่วโลกอาลัยโป๊ปฟรังซิส

ประชาชนคนทั่วโลกต่างแสดงความอาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์ลงอย่างสงบเมื่อวานนี้ด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา

นอมินีคนไทย

คุม 3 ผู้ต้องหานอมินีคนไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ไปฝากขัง ทั้งหมดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

พนักงานสอบสวนคดีพิเศษคุมตัว 3 ผู้ต้องหานอมินีคนไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ไปฝากขังศาลอาญารัชดา ภายหลังสอบนานกว่า 10 ชั่วโมง ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่นายโสภณ อ้างถูกนายประจวบ-นายมานัส ชักชวนให้ทำงาน

ราคาทองคำ

พุ่งไม่หยุด หวั่นสงครามการค้า ทองไทยแตะ 55,300 บาท

ทองไทย-ทองโลก ทำสถิติสูงสุดรายวัน นักลงทุนตุนทองหวั่นสงครามการค้ารุนแรง ทองไทยวันนี้ แตะบาทละ 55,300 บาทแล้ว ผู้เชี่ยวชาญแนะนำแบ่งขายทำกำไร

เลื่อนเจรจาทรัมป์

นายกฯ รับเลื่อนเจรจา “ทรัมป์” จากเดิม 23 เม.ย.นี้

นายกฯ ยอมรับเลื่อนเจรจา “ทรัมป์” ออกไปก่อน จากเดิม 23 เม.ย.นี้ ขณะที่การประชุม ครม.จับตา ก.คลัง ชงกู้เงิน พัฒนาโครงสร้างคมนาคมพื้นที่อีอีซี-สนามบินอู่ตะเภา ด้าน สทนช. ขอครม.เทงบรับมือภัยแล้ง