สน.มีนบุรี 22 เม.ย. – ฝากขังสาวท้อง 8 เดือน ด้านรุ่นพี่สาวท้องแก่ยืนยันน้องยังไม่ได้เลิกรากับนายบาส เตรียมพาไปขอขมาผู้เสียชีวิต หากศาลฯ ให้ประกันตัว
พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ควบคุมตัว น.ส.วรวรรณ หรือมายู อายุ 28 ปี ที่กำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายทำให้ น.ส.พจนารถ อายุ 23 ปี ถึงแก่ความตายไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 เมษายน น.ส.วรวรรณ ได้ออกตามหานายบาส ผู้เป็นสามีจนมาพบว่าอยู่กับน.ส.พจนารถ ที่ห้องพักของรีสอร์ทย่านมีนบุรี น.ส.วรวรรณ จึงบันดาลโทสะทำร้าย น.ส.พจนารถ ด้วยการทุบตีจนสลบแน่นิ่ง สุดท้ายไปสิ้นใจที่โรงพยาบาล โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพการทำร้ายชัดเจน
ทางพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้ควบคุมตัว น.ส.วรวรรณ มาทำเอกสารเพื่อนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี โดยท้ายคำร้องไม่คัดค้านการประกันตัว การฝากขังในครั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนไปควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังตั้งแต่เช้า เวลา 08.00 น. โดยที่ น.ส.วรวรรณ มีสีหน้าท่าทางปกติ
ด้าน พ.ต.อ.สมโภช ทองมูล ผกก.สน.มีนบุรี เปิดเผยว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิต ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยให้การอ้างว่า รู้สึกโกรธแค้นที่สามีไปเล่นชู้ เห็นภาพบาดตาบาดใจ จึงขาดสติยับยั้งอารมณ์ และขณะที่อยู่ในห้องคุมขัง ผู้ต้องหาก็ร้องไห้ตลอดเวลา บอกว่าอยากจะกลับบ้าน ซึ่งก็ได้กำชับให้สิบเวรหน้าห้องควบคุมคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และฝากให้ผู้ต้องหาที่อยู่ในห้องคุมขังช่วยกันดูแล คดีนี้ พนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เพราะผู้ต้องหามามอบตัวเอง และตัวของผู้ต้องหาก็อยู่ในสภาพใกล้คลอด ส่วนคนที่ไปด้วยกันกับผู้ต้องหา ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเนื่องจากการสอบปากคำพบว่า คนที่ไปด้วยกันไม่คาดคิดว่าเกิดเหตุถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต ส่วนที่ยกโทรศัพท์บันทึกคลิปเหตุการณ์เพราะต้องการหลักฐานว่าทั้งคู่เป็นชู้กันเท่านั้น
ขณะที่ น.ส.สุกัญญา หรือกิ๊ก อายุ 34 ปี เพื่อนรุ่นพี่ของนางสาวมายู ผู้ต้องหาได้ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตแทนน้องสาวที่ได้ก่อเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า นายบาสและน้องสาวยังไม่ได้เลิกกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา น้องพยายามบอกทั้งนายบาสและนางสาวออยให้เลิกติดต่อกัน และน้องสาวก็ไม่ได้เป็นคนที่มีอารมณ์โมโหร้าย ไม่เคยทำร้ายร่างกายนายบาสก่อน มีแต่นายบาสที่ทำร้ายร่างกาย ก่อนหน้านี้น้องสาวกับนายบาสเช่าห้องอยู่ด้วยกันที่ย่านเสรีไทย แต่ช่วงหลังมีปัญหาระหองระแหงมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน จนทำให้ เจ้าของหอพักให้ทั้งคู่ย้ายออก เพราะมีเพื่อนบ้านร้องเรียน และรุ่นน้องก็อาศัยอยู่กับตา เพราะพ่อแม่แยกทางกัน
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องขอโทษครอบครัวของนางสาวออย แทนรุ่นน้อง และถ้าหากศาลฯ ให้ประกันตัว ก็จะพารุ่นน้องไปกราบขอขมาผู้เสียชีวิต หลังได้มาเยี่ยมน้องตอนที่ถูกคุมขัง พบว่ามีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด กินข้าวไม่ได้ เอาแต่พูดว่าขอโทษ ตอนนี้สำนึกผิดแล้ว. -419-สำนักข่าวไทย