สำนักงาน กกต. 3 ก.ค.- “เรืองไกร” โต้ กกต.ตีตก 5 คำร้องวินิจฉัยไม่ฟันธง ยังติดใจเรื่อง “โต๊ะจีน พปชร.-จนท.อื่นของรัฐ” เตรียมข้อมูลเขย่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เรือกร้องเปิดบัญชีปิดงบฯประจำปี พปชร.เพื่อความโปร่งใส
เมื่อเวลา 11.20 น.นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นคำร้องถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง หลังจากที่มีหนังสือแจ้งกลับข้อร้องเรียนใน 5 คำร้อง ว่า หลังจากเห็นคำชี้แจงชองนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว บางส่วนเห็นด้วย และมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย เพราะในบางคำตอบยังไม่สะเด็ดน้ำ โดยเฉพาะในสองเรื่อง คือ กรณีโต๊ะจีน และเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ โดยเห็นว่าในเรื่องโต๊ะจีน ที่ตนร้องเรียนว่ามีมูลค่าสูงเกินจริงหรือไม่ แต่ที่น่าสังเกตว่าการจัดโต๊ะจีนในวันที่ 19 ธันวาคม 2561 หลังจากระดมทุนแล้ว มีการแจ้งผลการระดมทุนต่อ กกต.หรือไม่ รวมถึงในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปีพรรคการเมืองจะต้องปิดบัญชีค่าใช้จ่าย พรรคพลังประชารัฐได้มีการชี้แจงการปิดบัญชีแล้วหรือไม่ เพราะต้องทำให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2562 แต่นี่เดือนต้นเดือนกรกฎาคมแล้ว ถ้าไม่มีการรายงานมาต้องเสียค่าปรับ และเอาผิดกรรมการบริหารพรรคตามกฎหมาย จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันติดตามเรื่องการปิดบัญชีว่าจะมีการรายงานเรื่องโต๊ะจีนมาด้วยหรือไม่ ว่ามีหน่วยงานไหนบริจาค หรือมีค่าใช้จ่ายเท่าใด
นายเรืองไกร กล่าวว่า มีกระแสข่าวเรื่องการจ่ายเงิน 500-600 ล้านบาท ให้กับหัวหน้ากลุ่มต่างในพรรคพลังประชารัฐ ในเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งเงินดังกล่าวมีการลงในบัญชีของพรรคหรือไม่ และอยากจะรบกวนนายทะเบียนพรรคเปิดเผยบัญชีของพรรคพลังประชารัฐด้วย เพื่อที่ตนจะได้ช่วยตรวจสอบ เพราะหากอะไรถูกต้องก็จะได้ช่วยยืนยัน เชื่อว่าน่าจะมีอะไรในกอไผ่
“ขออภัยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค อยากให้ชี้แจงข้อมูล ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ส่งเอกสารตั้งแต่การตั้งพรรค จนปิดบัญชี ว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าใด รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง” นายเรืองไกร กล่าว
นายเรืองไกร กล่าวว่า อีกกรณีคือเรื่องการเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ว่านายทะเบียนพรรคการเมืองตอบมาแบบไม่ฟันธง เพราะทุกพรรคการเมืองก็เสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ตามาตรา 88 กับ มาตรา 89 ทั้งสิ้น เชื่อว่าประเด็นนี้จะมีปัญหาตามมา เพราะขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับโปรดเกล้าฯ และอยู่ระหว่างนำชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งยังมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติติดตัวอยู่ ทั้งนี้ตนจะนำข้อมูลของศาลปกครอง กกต. และศาลรัฐธรรมนูญมาประมวล โดยเฉพาะคำวินิจฉัยของเจ้าหน้าที่รัฐคดีอื่นๆ และจะไปตรวจสอบการใช้งบประมาณช่วง 5ปีที่ผ่านมาสของกระทรวงกลาโหม รวมถึงการแจ้งความจับผู้ที่ผ่าฝืนว่าโดยการไปแจ้งความในนาม คสช.ได้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เชื่อว่าจะเป็นปัญหาจน พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้
อย่างไรก็ตามในวันนี้ นายเรืองไกร ยังได้มาให้ถ้อยคำที่ สำนักงาน กกต. ในกรณีที่ได้ยื่นคำร้องกล่าวหาผู้สมัคร ส.ส. 6 ราย ซึ่งเป็นผู้สมัครที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ประกอบด้วย นายยุทธนา โพธสุธน นายประกอบ จีรกิติ นายสัญชัย อินทรสูตร ร.ต.วิจิตร อยู่สุภาพ น.ส.เกศกานดา อินช่วย และนายศันสนะ สุริยะโยธิน .-สำนักข่าวไทย